การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator คืออะไร?

Stochastic Oscillator ได้รับการพัฒนาโดย George C. Lane เมื่อปลายทศวรรษที่ 1950 เป็นเครื่องมือการซื้อขายอันล้ำค่าที่ใช้สำหรับการทำนายการกลับตัวของแนวโน้ม ตัวบ่งชี้นี้จะระบุระดับการซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไปของหลักทรัพย์โดยการวัดโมเมนตัมของราคา ซึ่งเป็นอัตราการเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหวของราคา

แนวคิดเบื้องหลัง Stochastic Oscillator คือโมเมนตัมมักจะเปลี่ยนแปลงก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนทิศทาง เป็นผลให้ตัวบ่งชี้นี้สามารถแซงหน้าการเคลื่อนไหวของราคาได้ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ได้เปรียบ

Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์กับทั้งเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และมือใหม่ เมื่อรวมเข้ากับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ เส้นแนวโน้ม และระดับแนวรับและแนวต้านแล้ว Stochastic Oscillator สามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการปรับปรุงความแม่นยำในการซื้อขายและระบุจุดเข้าและออกที่ดีที่สุดได้

Stochastic Oscillator ทำงานอย่างไร?

ตัวบ่งชี้จะวัดราคาปิดล่าสุดที่สัมพันธ์กับจุดสูงสุดและต่ำสุดของช่วงที่หลักทรัพย์ถูกซื้อขายในจำนวนช่วงเวลาในอดีตที่กำหนด จำนวนช่วงเวลามาตรฐานที่ใช้วัดคือ 14 ตัวอย่างเช่น ในกราฟรายวัน มันก็คือ 14 วัน ส่วนในกราฟรายชั่วโมง มันก็คือ 14 ชั่วโมง เป็นต้น

ตัวบ่งชี้ Stochastic เป็นตัวบ่งชี้สองเส้นที่เทรดเดอร์สามารถใช้กับกราฟใดก็ได้ สองเส้นนี้คือเส้น %K และ %D ที่เคลื่อนที่ระหว่าง 0 ถึง 100

Stochastic - example.png

  • เมื่อตัวบ่งชี้ Stochastic อยู่ในระดับสูง ราคาของตราสารจะปิดใกล้กับจุดสูงสุดของช่วง 14 ช่วงเวลา
  • ในทางตรงกันข้าม เมื่อตัวบ่งชี้อยู่ในระดับต่ำ ราคาจะปิดใกล้กับจุดต่ำสุดของช่วง 14 ช่วงเวลา
  • กฎทั่วไปสำหรับตัวบ่งชี้ Stochastic คือในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะปิดใกล้กับจุดสูงสุด ในทางกลับกัน ราคาจะปิดใกล้ระดับต่ำสุดในตลาดที่มีแนวโน้มขาลง หากราคาปิดหลุดจากจุดสูงสุดในตลาดกระทิงหรือหลุดจากจุดต่ำสุดในตลาดหมี โมเมนตัมจะชะลอตัวลง และการกลับตัวอาจเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า

สูตรการคำนวณของ Stochastic Oscillator

สูตรการคำนวณของ Stochastic Oscillator คือ:

%K = (Current Close - Lowest Low)/(Highest High - Lowest Low) * 100

%D = 3-day SMA of %K

โดยที่:

  • "Current Close" คือ ราคาปิดของหลักทรัพย์ของช่วงเวลาปัจจุบัน
  • "Lowest Low" คือ ราคาต่ำสุดที่หลักทรัพย์ไปถึงตามช่วงเวลาที่กำหนด
  • "Highest High" คือ ราคาสูงสุดที่หลักทรัพย์ไปถึงตามช่วงเวลาที่กำหนด

%K เป็นตัวบ่งชี้ Fast Stochastic เนื่องจากมันจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วกว่า %D เป็นตัวบ่งชี้ "Slow" Stochastic เนื่องจากโดยปกติแล้วมันจะเฉลี่ยค่าการเคลื่อน 3 ช่วงเวลาของ %K

การตั้งค่าตัวบ่งชี้ Stochastic

Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือชุดเริ่มต้นของ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 คุณสามารถเพิ่มลงในกราฟได้โดยคลิก “Insert” – “Indicators” – “Oscillators” จากนั้นเลือก “Stochastic Oscillator”

2 (3).png

การตั้งค่าเริ่มต้นคือ 5, 3, 3 การตั้งค่าอื่น ๆ ที่นิยมใช้กันทั่วไปสำหรับ Stochastics ได้แก่ 14, 3, 3 และ 21, 5, 5 การตั้งค่า Stochastic แบบ 5, 4 มักจะถูกเรียกว่า Fast Stochastic ด้วยการตั้งค่าแบบ 14, 3 จะเรียกว่า Slow Stochastic และการตั้งค่าแบบ 14, 3, 3 จะเรียกว่า Full Stochastic

Fast Stochastic จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดได้เร็วกว่า ขณะที่ Slow Stochastic จะลดจำนวนการตัดกันที่ผิดพลาด และด้วยเหตุนี้ สัญญาณเท็จบางส่วนจึงถูกกรองออกไป คุณสามารถเลือกค่าพารามิเตอร์ที่คุณต้องการได้เลย

การอ่านค่าตัวบ่งชี้ Stochastic

ดังที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น Stochastic Oscillator จะเคลื่อนที่ระหว่าง 0 ถึง 100 อย่างไรก็ตาม ราคามักจะไปไม่ถึงพื้นที่สุดขั้วเหล่านี้ ดังนั้น เทรดเดอร์มักจะใช้ระดับ 20 และ 80 เป็นเครื่องหมายสำหรับพื้นที่ที่มีการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไป

หากตัวบ่งชี้พุ่งขึ้นเหนือ 80 ตราสารจะถูกซื้อขายใกล้กับจุดสูงสุดของช่วงสูง-ต่ำ และขณะนี้ก็มีการซื้อมากเกินไป ในทำนองกลับกัน หากตัวบ่งชี้ร่วงลงต่ำกว่า 20 ตราสารจะถูกซื้อขายใกล้จุดต่ำสุดของช่วงสูง-ต่ำ และขณะนี้มีการขายมากเกินไป โดยปกติแล้ว เมื่อราคามาถึงบริเวณที่มีการซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป การกลับตัวก็กำลังจะเกิดขึ้น

หากออสซิลเลเตอร์เคลื่อนตัวเหนือ 50 ตราสารจะถูกซื้อขายในส่วนบนของกรอบการซื้อขาย โดยเหล่ากระทิงจะเป็นผู้ครองตลาด ในทำนองกลับกัน หากออสซิลเลเตอร์เคลื่อนตัวอยู่ใต้ 50 ตราสารจะถูกซื้อขายในส่วนล่างของกรอบการซื้อขาย โดยเหล่าหมีจะเป็นผู้ครองตลาด

ระดับการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไปมีประโยชน์มากสำหรับการทำนายการกลับตัวของแนวโน้ม

วิธีการซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator

เช่นเดียวกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ Stochastic นั้นก็ไม่ได้ให้สัญญาณที่ทำกำไรได้แบบ 100% แต่มีสองวิธีในการทำให้สัญญาณของตัวบ่งชี้นี้แม่นยำยิ่งขึ้น:

ใช้สัญญาณที่สร้างขึ้นเมื่อการตัดกันเกิดขึ้นในพื้นที่สุดขั้ว (สูงกว่า 80 สำหรับสัญญาณขาย และต่ำกว่า 20 สำหรับสัญญาณซื้อ)

3 (2).png

พิจารณาแนวโน้มในกรอบเวลาที่กว้างขึ้นและซื้อขายตามนั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ Stochastic บน H1 ให้ตรวจสอบแนวโน้มบน H4 หากมีแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง อย่าใช้สัญญาณซื้อ เนื่องจากราคาอาจอยู่ในพื้นที่ซื้อมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน แต่ให้เน้นไปที่สัญญาณขายที่ถูกสร้างโดย Stochastics แล้วคุณจะทำกำไรได้จากการซื้อขายตามแนวโน้ม

4 (1).png

นอกจากนี้ เช่นเดียวกับออสซิลเลเตอร์อื่น ๆ จงให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่ Stochastic Oscillator สร้างความแตกต่าง (divergence) จากกราฟราคา สัญญาณขายจะเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้น แต่ Stochastic สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลง (bearish divergence) ในทางตรงกันข้าม สัญญาณซื้อจะปรากฏขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลง ขณะที่ Stochastic สร้างจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น

5 (1).png

ขอแนะนำให้ใช้ Stochastic Oscillator ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น Moving Averages, Heiken Ashi, Alligator ฯลฯ

สรุป

Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ที่ช่วยในการระบุการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม การทำความเข้าใจวิธีการทำงานและวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณจะทำให้คุณได้เปรียบในตลาด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคใดที่จะไม่มีวันผิดพลาด และการจัดการความเสี่ยงและการซื้อขายอย่างมีวินัยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ

อัปเดทแล้ว • 2023-05-11

บทความอื่นๆ ในส่วนนี้

คำถามที่พบบ่อย

  • จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?

    คลิกปุ่ม ‘เปิดบัญชี’ บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Personal area ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขายได้ คุณจะต้องผ่านการตรวจสอบโปรไฟล์, ยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ, และผ่านการยืนยัน ID ของคุณ ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเงินทุนและตัวตนของคุณ เมื่อคุณตรวจสอบทั้งหมดเสร็จแล้วให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการแล้วเริ่มทำการซื้อขาย 

  • จะเริ่มเทรดอย่างไร?

    หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ  

  • จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?

    ขั้นตอนนั้นตรงไปตรงมามาก ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Personal area แล้วถอนเงิน คุณจะรับเงินที่ถอนผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีด้วยวิธีการอื่น คุณต้องถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในยอดเดียวกันกับจำนวนเงินที่ฝาก

ข่าวล่าสุด

โมเมนตัมขาขึ้นของทองคำกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่าให้รอเข้าเทรด SELL XAUUSD ที่ระดับ 2,180 ดอลลาร์ โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 2,130 ดอลลาร์ และตั้งจุด SL

NASDAQ มีโอกาสลงต่อได้ ถ้าราคาสามารถเคลื่อนที่ลงไปถึง 17,700 จุด ได้

ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY NASDAQ (US500) ที่ระดับ 17,200 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 19,300 จุด และตั้งจุด SL

โมเมนตัมขาลงของ S&P 500 มีโอกาสอ่อนแรงได้ ถ้าราคาลงไปที่บริเวณ 5,040 จุด

ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY S&P 500 (US500) ที่ระดับ 4,850 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 5,200 จุด

ฝากเงินกับระบบการชำระเงินในประเทศของคุณ

ประกาศการเก็บรวบรวมข้อมูล

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

โทรกลับ

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

เราได้รับคำร้องของคุณแล้ว

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

คำขอโทรกลับครั้งต่อไปสำหรับหมายเลขโทรศัพท์นี้
จะพร้อมใช้งานใน

หากคุณมีปัญหาเร่งด่วนโปรดติดต่อเราผ่านทาง
สนทนาออนไลน์

เกิดข้อผิดพลาดภายใน กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง

อย่ามัวเสียเวลา - ติดตามดูว่า NFP ส่งผลกระทบอย่างไร ต่อ USD แล้วทำกำไรเลยสิ!

คุณกำลังใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่ากว่านี้

อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือลองใช้เพื่อการเทรดที่สะดวกสบายและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

Safari Chrome Firefox Opera