ความสัมพันธ์ของคู่ Forex คืออะไรและจะเทรดมันอย่างไร?

ความสัมพันธ์ของสกุลเงินในการซื้อขาย Forex คืออะไร?

ความสัมพันธ์ของสกุลเงินใน Forex เป็นสิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนควรเข้าใจ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่ามันสามารถส่งผลกระทบต่อการซื้อขายได้โดยที่เทรดเดอร์ไม่รู้ตัวยังไงล่ะ โดยทั่วไปแล้ว ความสัมพันธ์ก็คือความสัมพันธ์ของกันและกันระหว่างสองสิ่งขึ้นไป ในขณะที่ใน Forex นั้น ความสัมพันธ์คือความเชื่อมโยงระหว่างคู่สกุลเงิน มันเผยให้เห็นว่าพวกเขาเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันมากขนาดไหน ยิ่งมีความสัมพันธ์กันสูงมากเท่าไร – แผนภูมิราคาก็ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้น ความสัมพันธ์มีสองประเภท: เชิงบวกและเชิงลบ

ความสัมพันธ์เชิงบวก

ความสัมพันธ์เชิงบวกหรือแปรผันตรง หมายความว่า คู่สกุลเงินเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน

ความสัมพันธ์เชิงลบ

ความสัมพันธ์เชิงลบหรือแปรผกผัน หมายความว่า คู่สกุลเงินเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกัน

โปรดทราบว่าหากคู่สกุลเงินเคลื่อนที่แบบสุ่มโดยไม่มีการเชื่อมโยงที่มองเห็นได้ แสดงว่าไม่มีความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างกัน

ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์คืออะไร?

ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์คือการวัดที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินนั้นแข็งแกร่งหรืออ่อนแอมากแค่ไหน ค่าสัมประสิทธิ์มีค่าตั้งแต่ -1.0 ถึง +1.0 สังเกตว่าคุณแทบจะไม่ได้เจอกับค่าสัมประสิทธิ์ที่มีค่า -1.0 และ +1.0 ตรงๆ เลย ในขณะที่ตัวเลขที่ใกล้กับ 1.0 เช่น 0.8 หรือ 0.7 นั้นจะเจอได้บ่อยกว่า

• ยิ่งตัวเลขเข้าใกล้ 1.0 มากเท่าไร ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ตรงกันข้าม ยิ่งค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เข้าใกล้ 0.0 ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินก็จะยิ่งอ่อนแอลงเท่านั้น
• เครื่องหมาย ‘+’ เครื่องหมายแสดงความสัมพันธ์เชิงบวก (แปรผันตรง) ในขณะที่เครื่องหมาย ‘-’ สัญญาณบ่งบอกถึงความสัมพันธ์เชิงลบ (แปรผกผัน) ระหว่างคู่สกุลเงิน

ความสัมพันธ์ใดที่ถือว่าแข็งแกร่ง?

หากค่าสัมประสิทธิ์ต่ำกว่า -0.7 และสูงกว่า +0.7 ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สกุลเงินจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีความสัมพันธ์กันสูง ในทางตรงกันข้าม หากอยู่ระหว่าง -0.7 ถึง +0.7 แสดงว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันเพียงเล็กน้อย ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่เข้าใกล้ 0 แสดงให้เห็นว่าคู่สกุลเงินไม่มีความสัมพันธ์ที่ตรวจพบได้

คู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์สูงใน Forex

ตารางนี้แสดงคู่สกุลเงินที่มีการเทรดมากที่สุดที่มีความสัมพันธ์เชิงลบหรือเชิงบวกที่แข็งแกร่ง  

มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกรายในการติดตามความสัมพันธ์ในตลาด Forex ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์อาจเปิดตำแหน่ง long (ซื้อ) USD/CAD และเปิด short (ขาย) EUR/JPY โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยคิดว่าพวกเขาได้เปิดการเทรดที่แตกต่างกันสองรายการ แต่คู่สกุลเงินเหล่านี้มักจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม เนื่องจากคู่สกุลเงินเหล่านี้มีความสัมพันธ์เชิงลบที่แข็งแกร่ง ในกรณีนี้ พวกเขาจะเปิดการเทรดที่เกือบจะเท่ากัน ดังนั้น ในทางหนึ่ง เทรดเดอร์สามารถชนะทั้งสองการเทรดได้ แต่ในทางกลับกัน มันก็เสี่ยงที่จะขาดทุนทั้งคู่ เนื่องจาก USD/CAD และ EUR/JPY มีความสัมพันธ์กันสูง

กลยุทธ์การซื้อขาย Forex จากความสัมพันธ์

กลยุทธ์ในการรับมือ

คุณทราบดีว่า AUD/USD และ NZD/USD มีความสัมพันธ์เชิงบวกจากข้อมูลข้างต้น หากคุณดูที่แผนภูมิราคา คุณจะเห็นภาพที่เกือบจะเหมือนกัน นี่คือเคล็ดลับ: เมื่อมีคู่หนึ่งที่ล่าช้า คุณสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของมันในอนาคตได้ค่อนข้างมาก เพียงแค่ดูที่ฝาแฝดของมัน

ตรวจสอบกลยุทธ์อีกครั้ง

หากคุณเปิดออเดอร์ของคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กัน โปรดใช้ความระมัดระวังเนื่องจากคุณอาจจะกำลังเพิ่มระดับความเสี่ยงของคุณอยู่ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณซื้อคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกสองคู่: AUD/USD และ NZD/USD หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้อง คุณจะได้รับกำไรสองเท่า อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง คุณก็จะขาดทุนเป็นสองเท่า เทรดเดอร์จะลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร? ใช้สัญญาณจากคู่สกุลเงินที่สัมพันธ์กัน!

ตัวอย่างเช่น หากคุณวิเคราะห์ EUR/USD และคิดว่ามันน่าจะพุ่งขึ้น อย่าเพิ่งเปิดออเดอร์ในทันที ให้ทำการวิเคราะห์ที่เหมาะสมของคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กัน (เช่น GBP/USD) เพื่อยืนยันสัญญาณเทรดของคุณก่อนแทน จากนั้น หากการวิเคราะห์ GBP/USD หรือคู่อื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกให้สัญญาณตลาดกระทิงเช่นกัน คุณก็สามารถเปิดตำแหน่ง long ของ EUR/USD ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น!

กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง

แล้วสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์เชิงลบล่ะ? เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อการป้องกันความเสี่ยงได้! ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ซื้อคู่สกุลเงินสองคู่ที่มีความสัมพันธ์เชิงลบต่อกัน หากการคาดการณ์ไม่ถูกต้องและคู่แรกเคลื่อนไหวตรงข้ามกับความคาดหวังของเทรดเดอร์ การเทรดคู่ที่สองจะช่วยชดเชยการขาดทุนได้

การป้องกันความเสี่ยงคือการลงทุนที่เทรดเดอร์ทำเพื่อลดความเสี่ยงของการเคลื่อนไหวของราคาที่ตรงกันข้ามของสินทรัพย์

การทำการเทรดอีกครั้งหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งแรกเป็นกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น หากคู่สกุลเงินมีความสัมพันธ์เชิงบวกและเทรดเดอร์ต้องการป้องกันความเสี่ยง พวกเขาควรพิจารณาซื้อคู่แรกและขายคู่ที่สอง อีกทางเลือกหนึ่ง หากคู่สกุลเงินมีความสัมพันธ์เชิงลบ และเทรดเดอร์ต้องการป้องกันความเสี่ยง พวกเขาควรพิจารณาซื้อหรือขายทั้งสองคู่ (ทำการเปิดออเดอร์ที่บรรจบกัน)

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วยค่าสหสัมพันธ์

ตัวอย่างเช่น คุณเปิดแผนภูมิ NZD/USD และสังเกตเห็นสัญญาณสองสัญญาณที่จะเปืด long (ซื้อ): ทั้งคู่หลุดจากเส้นล่างของ Bollinger Bands และแท่งเทียนก่อตัวเป็นพินบาร์ จากนั้นคุณเปลี่ยนไปที่คู่สกุลเงินที่สัมพันธ์กัน – AUD/USD เยี่ยมมาก! มันแสดงสัญญาณซื้อเช่นกัน: เส้นสัญญาณของ Stochastic Oscillator ตัดผ่านเส้นประจากล่างขึ้นบน การใช้สัญญาณนี้ คุณอาจได้กำไรสองเท่าจาก NZD/USD และ AUD/USD

ความสัมพันธ์ในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ไม่เพียงแต่คู่สกุลเงินที่สัมพันธ์กันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และดัชนีหุ้นด้วย! สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดสามารถมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเช่นเดียวกับคู่สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น ทองคำ (XAU/USD) มีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ตรงกันข้ามกับดอลลาร์สหรัฐและมีความสัมพันธ์เชิงบวกที่แข็งแกร่งกับเงิน (XAG/USD)

ในขณะเดียวกัน น้ำมันดิบ (XBR/USD และ XTI/USD) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับดอลลาร์แคนาดา เนื่องจากแคนาดาเป็นซัปพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ดังนั้น เมื่อน้ำมันพุ่งขึ้น CAD/JPY ก็มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ USD/CAD มีแนวโน้มที่จะร่วงลง

นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐ เช่น S&P 500 (US500) และ Nasdaq 100 (US100) มีความสัมพันธ์เชิงบวกที่แข็งแกร่งต่อกัน นอกจากนี้สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum มีความสัมพันธ์เชิงบวกสูงมาก สุดท้าย มาพูดถึงหุ้นกัน เมื่อหุ้นขนาดใหญ่ตัวหนึ่งพุ่งขึ้น หุ้นอื่นๆ ที่คล้ายๆ กันทั้งหมดจากภาคธุรกิจเดียวกันก็ขยับขึ้นเช่นกัน

วิธีเทรดคู่สหสัมพันธ์ของ Forex

จากข้อมูลข้างต้น คุณได้เรียนรู้วิธีต่างๆ ในการใช้ค่าสหสัมพันธ์ ในการเริ่มเทรดสินทรัพย์ที่สัมพันธ์กัน ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ดาวน์โหลด แอป FBS หรือ MetaTrader 4/5 แล้ว
2. เปิดบัญชีใน แอป FBS หรือบัญชี MT5 ใน Trader area ของคุณ ทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างเหมาะสมแล้วเลือกสินทรัพย์ที่คุณสนใจ: คู่สกุลเงิน หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์
3. เลือกกลยุทธ์จากด้านบนและเลือกสินทรัพย์ที่สัมพันธ์กัน
4. จัดการความเสี่ยงของคุณอย่างเหมาะสมด้วยเครื่องมือพิเศษ เช่น Stop Loss และ Take Profit คำสั่งซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงในตลาด จำไว้ว่าแม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะไม่ได้ปกป้องคุณได้ 100% ก็ตาม แต่มันก็ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
5. เปิดออเดอร์และคอยดูมัน!

สรุป

สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคู่สกุลเงินต่างๆ นั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ตามที่เขียนไว้ข้างต้น คู่สกุลเงินบางคู่และสินทรัพย์อื่นๆ เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียว ในขณะที่คู่อื่นๆ เคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ในตลาดการเงินช่วยให้เทรดเดอร์จัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น และมอบเครื่องมืออันทรงพลังในการเพิ่มผลกำไร!

สำหรับมือใหม่

หากคุณยังใหม่ต่อการซื้อขาย บัญชีทดลอง จะเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ เนื่องจากช่วยให้คุณฝึกทำการเทรดได้โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ หลังจากที่คุณเปิดบัญชีนี้ คุณจะได้รับเงินเสมือน 10,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้โปรดให้ความสนใจกับข้อเท็จจริงที่ว่า การฝากเงินขั้นต่ำที่ FBS นั้นเริ่มต้นเพียง $1 ในบัญชีจริง คุณสามารถเริ่มต้นอาชีพการเทรดของคุณได้จากเงินเพียงเล็กน้อย ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะจำกัดความเสี่ยงของคุณได้ ในขณะที่ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลกำไรจากบัญชีจริงด้วย!

FBS Analyst Team