เลือกขนาดล็อตใน Forex อย่างไรดี?

องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จคือการจัดการเงิน การจัดโครงสร้างแผนการซื้อขายโดยไม่มีการจัดการเงินที่สมเหตุสมผลสามารถส่งผลกระทบต่อผลกำไรของเทรดเดอร์ได้อย่างรุนแรงและอาจนำไปสู่การสูญเสียจำนวนมาก ในบทความนี้ เราจะพูดถึงทุกแง่มุมของล็อตและวิธีเลือกล็อต

ขนาดล็อต Forex คืออะไร?

ในการเทรด Forex ล็อตจะเป็นหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานของขนาดของการเทรด การเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่งจะถูกวัดเป็นจุด ซึ่งเป็นตำแหน่งทศนิยมสุดท้ายซึ่งมันน้อยมากๆ นั่นหมายความว่าการซื้อขายเพียงหน่วยเดียวนั้นไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีฝ่ายต่างๆเข้ามาช่วยให้ผู้คนสามารถทำการซื้อขายการเคลื่อนไหวเล็กๆเหล่านี้ในปริมาณมากได้

มูลค่าล็อตจะถูกกำหนดโดยการแลกเปลี่ยนหรือผู้ควบคุมตลาดที่คล้ายคลึงกันเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนซื้อขายตามจำนวนที่กำหนดและรู้ว่าสินทรัพย์ที่พวกเขาทำการซื้อขายเมื่อเปิดคำสั่งซื้อนั้นมีจำนวนเท่าไหร่

การหาขนาดล็อตที่สร้างสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างโอกาสและความเสี่ยง นั้นเป็นการตัดสินใจเลือกที่สำคัญมากของแต่ละบุคคล การใช้เครื่องมือเช่น เครื่องคำนวณการซื้อขาย สามารถช่วยคุณในการเลือกปรับแต่งขนาดล็อตของคุณได้ แต่คุณก็ควรทำโดยคำนึงถึงความเสี่ยงและเป้าหมายการซื้อขายของคุณเอง

นั่นเป็นเหตุผลที่การเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ขนาดล็อตที่ใหญ่เกินไปจะทำให้การซื้อขายมีความเสี่ยงและถือยากขึ้น ขนาดล็อตที่เล็กเกินไปอาจทำกำไรได้ไม่มากพอและไม่คุ้มกับความเสี่ยง

ขนาดล็อตมาตรฐานในการเทรดฟอเร็กซ์

ล็อตถูกแบ่งออกเป็นสี่ขนาด - standard, mini, micro, และ nano - เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมปริมาณความเสี่ยงได้มากขึ้น ขนาดของล็อตซื้อขายนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อประมาณการเคลื่อนไหวของตลาดที่ส่งผลกระทบต่อบัญชีของคุณ ตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหว 100 จุดในการคำสั่งซื้อขนาดเล็กจะไม่รู้สึกว่ารุนแรงเท่ากับการเคลื่อนไหว 100 จุดในการคำสั่งซื้อขนาดใหญ่มาก เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาด Forex มักจะซื้อขายด้วยล็อต micro และ mini

Nano จะเป็นขนาดล็อตที่เล็กที่สุด มี 100 จุด อย่างไรก็ตาม ล็อตประเภทนี้จะไม่ค่อยพบเห็นในตลาด และ FBS ไม่มีให้เลือกใช้

ล็อต Micro จะเป็นล็อตที่มีมูลค่าต่ำที่สุดที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่สามารถซื้อขายได้ มันประกอบด้วย 1,000 หน่วยของสกุลเงินของบัญชีของคุณ สมมติว่าสกุลเงินของบัญชีของคุณคือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งล็อต micro จะมีมูลค่าเท่ากับ $1,000 สมมติว่าคุณกำลังซื้อขายคู่สกุลเงินดอลลาร์ หนึ่งจุดก็จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 cent ล็อต micro นั้นเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเนื่องจากคุณสามารถลดความเสี่ยงในขณะที่ทำการซื้อขายได้

นอกจากล็อต micro แล้ว ยังมี ล็อต mini ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 หน่วยของสกุลเงินของบัญชีของคุณ ล็อต mini จะมีมูลค่ามากกว่าล็อต micro ถึง 10 เท่า สมมติว่าคุณกำลังซื้อขายคู่สกุลเงินดอลลาร์โดยใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินในบัญชีของคุณ เช่นนั้นแต่ละจุดก็จะมีมูลค่าเท่ากับ 10 cent หากคุณเป็นมือใหม่ที่ตั้งใจจะซื้อขายด้วยล็อต mini ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเงินทุนเพียงพอเพราะแม้ว่า 10 cent ต่อจุดนั้นอาจดูเล็กน้อย แต่ตลาด Forex สามารถเคลื่อนไหวได้ 1,000 จุดต่อวันหรือแม้กระทั่งต่อชั่วโมง นั่นหมายความว่าหากการซื้อขายไปตรงข้ามกับที่คุณคาดหวัง คุณจะต้องขาดทุน $100 แน่นอนว่าคุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าคุณอยากเสี่ยงเท่าไหร่ แต่เพื่อความสะดวกสบายในการซื้อขาย คุณต้องมีเงินอย่างน้อย $2,000 ในบัญชีของคุณ

สุดท้าย ล็อต standard จะมีจำนวน 100,000 หน่วย หากคุณใช้สกุลเงินดอลลาร์ นั่นจะหมายถึงการซื้อขายจะมีมูลค่า $100,000 มูลค่าบัญชีของคุณจะผันผวน $1 ในทุกๆการเคลื่อนไหวแต่ละจุด สมมติว่าคุณมีเงิน $3,000 ในบัญชีของคุณ การเคลื่อนไหน 300 จุดจะทำให้ยอดเงินในบัญชีของคุณเปลี่ยนแปลงไป 10% เป็นผลให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่มีบัญชีขนาดเล็กจะไม่ซื้อขายด้วยล็อต standard

ใน Metatrader ขนาดล็อตจะถูกเรียกว่าปริมาณ ขณะที่กำลังเปิดคำสั่งซื้อ คุณสามารถกำหนดขนาดของมันได้

เครื่องคำนวณขนาดล็อต forex

เดี๋ยวเรามาพูดกันถึงเครื่องมือของ FBS ที่จะช่วยคุณประหยัดเวลาในการคำนวณ - เครื่องคำนวณของเทรดเดอร์ ไปดูกันว่ามันทำงานอย่างไร

มีหลายฟิลด์ที่คุณต้องกรอก: ประเภทบัญชีและสกุลเงิน เลือกตราสารและขนาดล็อต ราคา Bid และ Ask จะถูกนำมาจากแผนภูมิ แต่คุณสามารถแก้ไขได้หากคุณพิจารณาเข้าซื้อขายที่ระดับอื่นที่ไม่ใช่ราคาปัจจุบัน Margin คือจำนวนเงินที่คุณต้องการในบัญชีของคุณเพื่อลงทุนซื้อขาย หากจำนวนมากหรือน้อยเกินไป คุณสามารถลองใช้ขนาดล็อตอื่นได้

ข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าของจุดจะช่วยให้คุณประเมินผลกำไรและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการซื้อขายที่คุณกำลังวางแผน: เพียงคูณพารามิเตอร์นี้ด้วยระดับ Take Profit และ Stop Loss ส่วนสเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขายที่แสดงเป็นจุดและ USD หรือ EUR

โปรดทราบว่าเครื่องคำนวณจะแสดงค่า Swap Long และ Swap Short ให้คุณเห็นด้วยนะ ค่าสวอปคือค่าธรรมเนียมร้อยละที่จ่ายหรือเรียกเก็บจากคุณเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายในแต่ละวันหากคุณเปิดคำสั่งซื้อทิ้งไว้ข้ามคืน ขั้นตอนการโอนตำแหน่งที่เปิดจากวันซื้อขายหนึ่งไปอีกวันจะถูกเรียกว่า rollover หากเทรดเดอร์ขยายการถือคำสั่งซื้อของตนมากกว่าหนึ่งวัน ต้นทุนหรือกำไรของพวกเขาจะได้รับผลกระทบขึ้นอยู่กับว่าอัตราดอกเบี้ยใดเหนือกว่า

หากคุณแค่เทรดจบในวันโดยไม่มีถือข้ามคืน เช่นนั้นก็จะไม่มีค่าสวอปมารบกวนจิตใจคุณ แม้ว่าคุณจะเปิดคำสั่งซื้อเป็นเวลาหลายวัน (สูงสุด 2 สัปดาห์) และหนึ่งคำสั่งซื้อในสกุลเงินหลักของ Forex กำไร/ขาดทุนจากสวอปของคุณก็มีแนวโน้มว่าจะน้อยเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ของการเทรดของคุณ (กำไรหรือขาดทุนของคุณ) ด้วยเหตุนี้ เทรดเดอร์หลายคนจึงไม่สนใจเรื่องค่าสวอป

การแสดงภาพผลกระทบของขนาดล็อต

เดี๋ยวเรามาอธิบายทุกสิ่งที่เราพูดกันไปถึงด้วยตัวอย่าง

ลองนึกภาพถึงเทรดเดอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Festus เขาเพิ่งฝากเงิน $5,000 เข้าบัญชีซื้อขายของเขาและพร้อมที่จะเริ่มซื้อขาย สมมติว่าตอนนี้เขาทำการการซื้อขายคู่เงิน EURUSD โดยใช้ระบบการซื้อขายแบบสวิง และเขาเสี่ยงประมาณ 200 จุดในแต่ละคำสั่งซื้อ

ก่อนหน้านี้ Festus เคยสูญเสียเงิน และหลังจากนั้น เขาสาบานว่าจะไม่เสี่ยงมากกว่า 1% ของบัญชีของเขาต่อคำสั่งซื้อ เดี๋ยวเรามาคำนวณกันว่าขนาดตำแหน่งของเขาต้องใหญ่แค่ไหนเพื่อให้อยู่ในเขตเสี่ยงที่เขาสบายใจ

โดยใช้ยอดเงินในบัญชีและเปอร์เซ็นต์ที่เขาต้องการเสี่ยง เราสามารถคำนวณปริมาณความเสี่ยงเป็นดอลลาร์ได้

$5,000 x 1% (หรือ 0.01) = $50

สามารถคำนวณขนาดตำแหน่งในอุดมคติได้โดยใช้สูตร:

ล็อตที่ซื้อขาย = จำนวนที่เสี่ยง / (จุดที่เสี่ยง * มูลค่าจุด)

ในกรณีนี้ ที่ 10,000 หน่วย (หรือหนึ่งล็อต mini) แต่ละจุดจะมีมูลค่าเท่ากับ $0.1

ล็อตที่ซื้อขาย = $50 / (200*$0.1) = 2.5

ดังนั้น Festus จำเป็นต้องเปิดคำสั่งซื้อ 2.5 ล็อต mini หรือน้อยกว่านั้นเพื่อให้อยู่ในระดับที่สบายใจกับการตั้งค่าการซื้อขายปัจจุบันของเขา จำไว้ว่า 1 ล็อต mini จะเท่ากับ 0.1 ล็อต standard ด้วยเหตุนี้ เมื่อ Festus เปิดคำสั่งซื้อใหม่ใน MetaTrader เขาต้องพิมพ์ "0.25" ในช่อง "Volume" ไม่อย่างนั้นเขาอาจเสี่ยงมากเกินไป

หมายเหตุ: ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิงในหลายคู่เงิน (EURUSD, GBPUSD เป็นต้น) ซึ่งหมายความว่าอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินฐานที่เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯจะเท่ากับ 1

สำหรับคู่เงินดังกล่าว หนึ่งจุดจะมีมูลค่า $1 เสมอเมื่อเราทำการซื้อขาย:

สัญญา 100,000 หน่วย (1 ล็อต standard): 100,000 * 0.00001 / 1 = $1 (มูลค่าจุดของ EURUSD)

สำหรับคู่เงินที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินฐาน (USDCHF, USDCAD) มูลค่าจุดจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน:

100,000 * 0.00001 / 1.0195 = $0.98 (มูลค่าจุด USDCHF)

สำหรับคู่เงินเยนญี่ปุ่น มูลค่าจุดจะถูกคำนวณดังนี้:

100,000 * 0.001 / 120.65 = $0.828 (มูลค่าจุด USDJPY)

โปรดจำไว้ว่า ที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องมีมาร์จิ้นจำนวนมากสำหรับ 100,000 หน่วยเพื่อซื้อขาย เพราะเป็นไปได้มากว่าคุณจะซื้อขายด้วยเลเวอเรจ

สรุป

การทำความเข้าใจเรื่องล็อตและขนาดของล็อตนั้นจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการซื้อขาย Forex อย่างมีประสิทธิภาพ ข้างล่างนี้เรามาทบทวนกันอีกนิดว่าล็อต Forex คืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญ:

• ล็อต Forex เป็นหน่วยวัด มันจะกำหนดจำนวนสกุลเงินที่คุณซื้อ
• ล็อตมีสี่ประเภทที่คุณสามารถซื้อได้กับ Forex: standard, mini, micro, และ nano
• ขนาดตำแหน่งของคุณจะถูกกำหนดโดยขนาดล็อตและปริมาณหรือล็อตที่คุณซื้อหรือขาย

Author: FBS Analyst Team

บทความอื่นๆ จากผู้เขียนนี้

คล้ายกัน

20.04.2022 08:31 กลยุทธ์การซื้อขาย Martingale และ Anti-Martingale

การซื้อขายต้องมีการจัดการสิ่งที่สำคัญหลายอย่าง

03.02.2021 12:31 กลยุทธ์ scalping ที่คุณปรารถนา

เราทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณชอบ scalping มากแค่ไหน แนวทางการเทรดนี้จะช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์ จากการเทรดในกรอบเวลาขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง) ในบทความนี้ เราจะช่วยให้คุณได้ทำความรู้จัก อีกกลยุทธ์ scalping ที่ใช้ตัวบ่งชี้ Bollinger Bands

30.10.2020 16:16 จับคลื่นด้วยกลยุทธ์การเทรดตามการแกว่งตัวของราคา

ขณะที่พยามหาสมดุลย์ระหว่างการเทรดรายวัน และการเทรดแบบ scalping เทรดเดอร์อาจ ค้นพบรูปแบบที่น่าสนใจระหว่างสองวิธีนี้ ชื่อของบทความก็อธิบายตัวมันเองอยู่แล้ว: วันนี้เราจะมาพูดถึงการเทรดตามการแกว่งตัวของราคา แล้วการเทรดตามการแกว่งตัวของราคาคืออะไร?