กลยุทธ์สำหรับการซื้อขายแบบราบเรียบ: Rubber Band
แม้ว่า 70% ของเวลาทั้งหมดในตลาดจะเป็นแบบราบเรียบ แต่กลยุทธ์การซื้อขายส่วนใหญ่มีไว้สำหรับการซื้อขายตามแนวโน้ม ดังนั้น เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงได้ใช้ศักยภาพในการซื้อขายเพียง 30% เท่านั้น! ให้ความสนใจกับกลยุทธ์นี้ ถ้าคุณอยากจะมีประสิทธิผลมากขึ้น
ราคาสามารถเคลื่อนที่เป็นแนวโน้ม (ขึ้น/ลง) หรือเคลื่อนที่ไปด้านข้างโดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน กลยุทธ์นี้ใช้เพื่อเป็นกลยุทธ์ทางเลือก – ในตอนที่ตลาดนั้นราบเรียบ ความสำเร็จส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าเทรดเดอร์หาจุดเข้าและออกได้ดีเพียงใด บางครั้งก็ยากที่จะกำหนด นั่นคือเหตุผลที่เทรดเดอร์ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและรูปแบบของราคา
คุณจะต้องใช้ตัวบ่งชี้ต่อไปนี้สำหรับกลยุทธ์นี้:
- Moving Averages (MA)
- Bollinger Bands (BB)
- Relative Strength Indicator (RSI)
จะหาตลาดที่ราบเรียบได้อย่างไร?
มีอยู่สองวิธีในการทำที่จะหาตลาดที่ราบเรียบ มันจะดีกว่าที่จะใช้กรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4)
สำหรับมือใหม่
ให้ติดตามสัญญาณของเส้น Moving Averages หากเส้น Moving Averages สองเส้นตัดกันหรือเคลื่อนที่ขนานกัน แสดงว่าตลาดเป็นแบบราบเรียบ สำหรับใช้ในการหาตลาดแบบราบเรียบ ขอแนะนำให้ใช้เส้น 20-MA และ 50-MA
สำหรับเทรดเดอร์ระดับกลาง
กำหนดราคาสูงสุดอย่างน้อยสองรายการในระดับเดียวกันและลากเส้นแนวนอน ทำเช่นเดียวกันกับราคาต่ำสุด หลังจากนั้นคุณจะได้ช่องที่อยู่ในแนวนอน
*เคล็ดลับ! ใช้ทั้งสองวิธีและจะได้สัญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น
การตั้งค่าตัวบ่งชี้
- เปิด H4
- เพิ่ม Moving Averages 2 เส้น ที่ระยะ 20 และ 50 เลือกสีที่แตกต่างกันสำหรับ MAs
- เปิด H1
- เพิ่ม Bollinger Bands ที่มาพร้อมกับค่าเริ่มต้นการตั้งค่า เส้นกลางของ BB คือเส้น 20-MA
- เพิ่ม Relative Strength Indicator (ให้ใช้ระยะเวลาจากค่าเริ่มต้น เปลี่ยนระดับเป็น 35 และ 65)
*เคล็ดลับ! บันทึกแผนภูมิด้วยตัวบ่งชี้ที่ตั้งไว้เป็นเทมเพลต หลังจากนี้ คุณก็จะได้ไม่ต้องมาตั้งค่าตัวบ่งชี้และการตั้งค่าเหล่านี้อีก ในการทำเช่นนั้น ให้คลิกที่ตำแหน่งใดก็ได้ของแผนภูมิด้วยการคลิกเมาส์ขวา จากนั้นคลิก 'เทมเพลต' แล้ว 'บันทึกเทมเพลต' เท่านี้ก็เรียบร้อย!
ควรจะเปิดออเดอร์เมื่อไหร่?
ในการเปิดคำสั่ง BUY จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขด้านล่างทั้งหมด
- ตลาดเป็นแบบราบเรียบในกราฟ 4 ชั่วโมง
- เปิดกรอบเวลา 1 ชั่วโมง (H1) รอให้ราคาทะลุเส้นต่ำสุดของ Bollinger Bands และตัวบ่งชี้ RSI เคลื่อนที่ต่ำกว่าหรือเข้าใกล้ระดับ 35.00
- (เพิ่มเติม) เปิดแผนภูมิ 15 นาทีและค้นหาสัญญาณการกลับตัว มันอาจเป็นแท่งเทียนหรือรูปแบบราคา ตัวอย่างเช่น Hammer หรือ Double bottom นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าราคาเด้งออกจากตัวเลขกลมๆ (0.8500, 0.8000)
- เปิดคำสั่ง BUY!
- วาง Stop Loss ต่ำกว่าแท่งเทียนสัญญาณ 20-30 จุด (= 2-3 pips)
- วาง Take Profit ไว้ตรงเส้นกลางของ Bollinger Bands
ในการเปิดคำสั่ง SELL จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขด้านล่างทั้งหมด
- ตลาดเป็นแบบราบเรียบในกราฟ 4 ชั่วโมง
- เปิดกรอบเวลา 1 ชั่วโมง (H1) รอให้ราคาทะลุเส้นสูงสุดของ Bollinger Bands และตัวบ่งชี้ RSI เคลื่อนที่สูงกว่าหรือเข้าใกล้ระดับ 65.00
- (เพิ่มเติม) เปิดแผนภูมิ 15 นาทีและค้นหาสัญญาณการกลับตัว มันอาจเป็นแท่งเทียนหรือรูปแบบราคา ตัวอย่างเช่น Shooting star หรือ Double top นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าราคาเด้งออกจากตัวเลขกลมๆ (0.8500, 0.8000)
- เปิดคำสั่ง SELL!
- วาง Stop Loss สูงกว่าแท่งเทียนสัญญาณ 20-30 จุด (= 2-3 pips)
- วาง Take Profit ไว้ตรงเส้นกลางของ Bollinger Bands
กลยุทธ์นี้เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ในด้านหนึ่งมันก็เป็นตัวบ่งชี้ที่เรียบง่าย และในอีกด้านหนึ่งมันก็ต้องการการกรองและยืนยันสัญญาณการเทรดในหลายๆ ระดับ