ตลาดสกุลเงินและเรื่องการเมือง มีความเกี่ยวข้องใดๆกันหรือไม่?

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

คุณเคยสังเกตไหมว่าเหตุการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดมากกว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจ? เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นและเหตุการณ์ทางการเมืองใดที่เทรดเดอร์ควรคำนึงถึง?

ทำไมการเมืองถึงมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน?

คำตอบง่ายๆคือ: นักลงทุนจะลงทุนเงินในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีระบบการเมืองที่มั่นคง ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะทำให้สกุลเงินในประเทศอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนจะถอนสินทรัพย์ของตนและเปลี่ยนไปลงทุนในสกุลเงินที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการอ่อนค่าลงของสกุลเงิน

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงทางการเมืองจะส่งผลเสียต่อเทรดเดอร์ ข้อดีของการเทรดก็คือคุณสามารถได้รับผลกำไรจากทั้งสกุลเงินที่แข็งแกร่งและจากสกุลเงินที่อ่อนค่าด้วยเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการคาดการณ์ให้ถูกต้องว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะส่งผลต่อสกุลเงินอย่างไร

เหตุการณ์ทางการเมืองใดที่ส่งผลกระทบต่อตลาด?

ลองมาดูเหตุการณ์เหล่านี้และดูผลกระทบของพวกมันในตลาด

1. การเลือกตั้ง การเลือกตั้งถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินของประเทศ ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะนำอะไรมาสู่ประเทศและสกุลเงิน ตลาดจะมองว่าการเลือกตั้งถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ความล่าช้าในการเลือกตั้งจะทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลงเนื่องจากความล่าช้าหมายถึงความไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดมีอิทธิพลต่อตลาดมากที่สุดและทำให้เกิดความผันผวนสูง

ยกตัวอย่างเช่น จนถึงตอนนี้การเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของโลก หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เงินดอลลาร์และตลาดการเงินได้พังลง ประการแรกคือน้อยคนที่จะเชื่อว่าทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจริงๆ ประการที่สองคือตลาดไม่ทราบว่าควรจะคาดหวังอะไรจากนักธุรกิจที่ลงมาเล่นการเมือง

2. ความไม่มีเสถียรภาพทางสังคม เมื่อคนในประเทศไม่พอใจกับรัฐบาล มันก็อาจจะทำให้เกิดการปะทะกันของอำนาจและผลที่ตามมาคือการถอนการลงทุน เงินทุนมักจะหวาดกลัวความไม่สงบทางสังคมอยู่เสมอ

3. ข้อพิพาทระหว่างประเทศถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ทางการเมืองในเชิงลบ มันเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่อันตรายที่สุดสำหรับตลาดเนื่องจากมันมีผลต่อสกุลเงินอย่างน้อยสองสกุล

ยกตัวอย่างเช่น ขั้นตอนที่เลวร้ายที่สุดของข้อพิพาทระหว่างประเทศคือการคว่ำบาตร ตัวอย่างเช่น การคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่มีต่อรัสเซียส่งผลให้มูลค่าของเงินรูเบิลร่วงลงอย่างรุนแรง

อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ การหยุดชะงักความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศซาอุดิอารเบียและประเทศแคนาดาเนื่องจากความขัดแย้งทางด้านสิทธิมนุษยชน ส่งผลให้ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ขับไล่เอกอัครราชทูตแคนาดาออกจากประเทศและวางแผนที่จะถอนนักศึกษาและผู้ป่วยจำนวนหลายพันคนออกจากแคนาดาและระงับเที่ยวบินของประเทศซาอุดีอาระเบียที่จะบินไปยังโตรอนโต เงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเนื่องจากข่าวในแง่ลบ

866_article.jpg

4. การลงประชามติ เมื่อบางสิ่งบางอย่างคุกคามความสามัคคีของประเทศหรือกลุ่มการเมืองมันก็จะต้องมีผลกระทบต่อตลาดสกุลเงินอย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช่น สกอตแลนด์ตัดสินใจที่จะลงประชามติเพื่อออกจากอังกฤษในเดือนกันยายน 2014 เงินปอนด์ได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นอย่างมากในช่วงระยะเวลาก่อนที่จะมีการลงประชามติ ข่าวเกี่ยวกับผลที่ได้จากการลงประชามติจะสามารถทำให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นและอ่อนตัวลงได้

จนถึงขณะนี้ข้อตกลง Brexit ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อเงินปอนด์มากกว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจใดๆ ถึงแม้ว่าการลงประชามติจะมีขึ้นมามากกว่า 2 ปีที่แล้ว แต่มันก็ยังมีผลกระทบอย่างมากต่อ GBP ความไม่แน่นอนใดๆในข้อตกลงระหว่างอังกฤษและยุโรปจะทำให้ GBP อ่อนค่าลง

5. การประชุมสุดยอดระหว่างประเทศและการประชุมต่างๆ

การประชุมของเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆมักมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เทรดเดอร์อาจจะได้รับเบาะแสเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรวมถึงสถานการณ์ทั่วโลกโดยรวมด้วยเช่นกัน การประชุมเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ต่างๆเช่น วิกฤติกรีซหรือการมีส่วนร่วมของอิตาลีในสหภาพยุโรปต่อไปจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากที่สุด

ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์ว่าอิตาลีอาจออกจากสหภาพยุโรปได้ก่อให้เกิดแนวโน้มแบบ bearish ในระยะกลางต่อเงินยูโร

6. สุนทรพจน์และความคิดเห็นจากนักการเมือง

ตลาดมีการติดตามความคิดเห็นและการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด มีบางครั้งที่ความคิดเห็นเหล่านี้สามารถพลิกความคาดหวังทั้งหมดของตลาดได้

ตัวอย่างเช่น เมื่อ USD ได้อ่อนค่าลงในเดือนมกราคมและตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะสามารถสนับสนุนเงินดอลลาร์สหรัฐได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ Steven Mnuchin ได้กล่าวว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสหรัฐฯ หลังจากที่มีความคิดเห็นดังกล่าว USD ได้อ่อนค่าลงและเข้าสู่ระดับต่ำสุด

โดยสรุปเราสามารถพูดได้ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีสำหรับตลาดสกุลเงิน เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สามารถใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ใดๆก็ได้: ไม่ว่าจะเหตุการณ์ในเชิงบวกหรือเชิงลบ ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่ fbs.com เพื่อทำการคาดการณ์ที่แม่นยำเกี่ยวกับผลกระทบของเหตุการณ์ที่จะมีต่อสกุลเงิน

หมายเหตุ: ไม่ควรเข้าสู่ตลาดในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการเทรดตามความคาดหวังของตลาด ตรวจสอบว่าตลาดคาดหวังอะไรและเทรดไปในทิศทางนั้น!

 

FBS Analyst Team

แบ่งปันกับเพื่อน:

คล้ายกัน

เปิดทันที

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา