ตัวบ่งชี้ Fractal ของ Bill Williams

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

ข้อมูลทั่วไป

Bill Williams ได้พัฒนาตัวบ่งชี้ Fractals ซึ่งมีรากฐานมาจากแนวคิดของเรื่องเศษส่วนซึ่งเขาได้นำเข้าสู่ฐานความรู้ของ Forex วิธีการนำมาใช้งานก็มีหลากหลาย โดยทั่วไปจะใช้เพื่อระบุแนวโน้มที่มีความแข็งแกร่งในตลาดและบ่อยครั้งก็ใช้ในการระบุจุดกลับตัวของตลาด เช่นเดียวกับตัวบ่งชี้อื่นๆ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งเราจะพูดถึงทั้งหมดข้างล่างนี้เพื่อให้คุณสามารถใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการซื้อขายประจำวันของคุณ

การค้นพบ

มีสองวิธีในการค้นหา fractals บนแผนภูมิ

วิธีแรก - คุณจะต้องอ่านข้อมูลต่อไปนี้และสามารถระบุ fractal ได้บนแผนภูมิตามชุดของแท่งเทียนที่ต้องการเพื่อสร้าง fractal

วิธีที่สอง - คลิกเพื่อแสดงตัวบ่งชี้เศษ fractals บนแผนภูมิ ส่วนวิธีทำจะแสดงในภาพถัดไป

1_Selecting-the-indicator.jpg

ส่วนประกอบ

Facetal เป็นชุดของแท่งเทียน 5 แท่งที่ปิดแล้ว มันอาจเป็น bullish (ขาลง) หรือ bearish (ขาขึ้น)คุณอาจสับสนนิดหน่อยกับชื่อเมื่อทียบกับวิธีการทั่วไป: ปกติแล้วในตลาด Forex นั้น bulish จะหมายถึงขาขึ้น ส่วน bearish จะหมายถึงขาลง ขณะที่ตรงนี้คุณจะเห็นว่า bullish fractal คือ fractal ที่จิ้มลงด้านล่าง และ bearish fractal คือ fractal ที่จิ้มขึ้นด้านบน ไม่ต้องกังวลไป มันเข้าใจได้ไม่ยากเพราะเดี๋ยวคุณก็เห็น ไปดูกันเถอะ

เพื่อที่จะแยก fractal ออกจากชุดของแท่งเทียนบนแผนภูมิ เราจะต้องหาแท่งเทียน 5 แท่งที่เรียงตัวกันเป็นรูปแบบคล้ายๆลูกศร (แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นรูปลูกศรที่ชัดเจนขนาดนั้นก็ตาม) เมื่อเราแยกแท่งเทียนทั้งห้าแท่งออกมา ให้ดูแท่งที่อยู่ตรงกลาง (แท่งที่สามที่อยู่ตรงกลาง) เช่นนั้นในตอนนี้เราจะมีแท่งเทียนตรงกลางที่มี 2 ปีกซ้าย และ 2 ปีกขวา ที่ปลายแท่งเทียนแท่งกลาง เราสามารถระบุ fractal ของเราได้เป็นชี้ขึ้น (bearish) หรือชี้ลง (bullish)ใน bearish fractal แท่งเทียนแท่งกลางจะมีจุดสูงสุดที่สูงที่สุดขณะที่จุดสูงสุดของแท่งเทียนซ้ายขวาจะต่ำกว่าของแท่งกลาง fractal ทั้งชุดจะชี้ขึ้นแต่มีทิศทางเคลื่อนที่เป็นขาลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่มันถูกเรียกว่า bearish ดังภาพข้างล่างนี้ 

                                                                                                             2_Up Fractal.png

ใน bullish fractal แท่งเทียนแท่งกลางจะมีจุตต่ำสุดที่ต่ำที่สุดและแท่งเทียนทั้งซ้ายและขวาก็มีจุดต่ำสุดที่ยกตัวขึ้น ดังที่จะเห็นในภาพถัดไป ซึ่งมันมักจะปรากฏก่อนที่ตลาดจะมีการกลับตัวไปเป็นขาขึ้น ทำให้มันถูกเรียกว่า bullisj fractal

                                                                                                               3_Down Fractal.png

ทีนี้เราก็รู้วิธีการหา fractals บนแผนภูมิแล้ว เดี๋ยวเราไปลองใช้เครื่องมือตัวนี้กัน

วิธีการใช้งาน  

  1. ใช้ fractal เป็น Stop lossอีกรูปแบบหนึ่งในการใช้งาน fractal คือใช้เพื่อจัดการความเสี่ยง ซึ่ง ณ ที่นี้มันคือการใช้ fractal เป็นระดับ stop loss ในตัวอย่างด้านล่างจะแสดงการวาง stop loss ของออเดอร์ sell ไว้ที่ fractal up ล่าสุด (ตรงกันข้ามหากเป็นออเดอร์ buy ก็จะวาง stop loss ไว้ที่ระดับของ fractal down ล่าสุด) หากคุณมองตามเส้นที่ขีดไปทางซ้ายมือ คุณจะเห็นว่ามันร่วงลงต่ำกว่าขอบเขตของแนวรับย่อย (ที่เป็นจุดสูงสุดของ fractal up ก่อนหน้า)Pic 2.jpg
  2. ใช้ Fractal บอกจุดกลับตัวของตลาดการใช้ fractal เป็นสัญญาณการกลับตัวของตลาดนั้นเป็นวิธีการในการใช้ตัวบ่งชี้ตัวนี้ที่่เป็นที่นิยมมากที่สุด รูปภาพด้านล่างนี้แสดงราคาที่กำลังร่วงลงหลังเกิด bearish fractal สำหรับเทรดเดอร์แล้วมันเป็นจังหวะที่น่าเข้า sell และในทางตรงข้ามที่ตลาดวิ่งขึ้นหลังเกิด bullish fractal มันก็เป็นจังหวะที่ดีที่จะเปิด buyPic 1 corrected.jpg

วิธีการผสมผสานเพื่อใช้งาน 

การใช้ตัวบ่งชี้สองสามตัวร่วมกันเพื่อยืนยันซึ่งกันและกันนั้นดีกว่าการใช้เพียงตัวเดียวเสมอ ตัวบ่งชี้ Fractals ก็เช่นกัน มันเชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้างพอๆกับเครื่องมือตัวอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องมาดูว่าจะผสานมันเข้ากับวิธีการอื่นๆได้อย่างไร 

  1. Fractals + การวิเคราะห์แนวโน้ม เนื่องจากการวิเคราะห์แนวโน้มเป็นวิธีการพื้นฐานในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด และ fractal ก็รวมอยู่ในตรรกะนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น เราสังเกตว่าตลาดดูเหมือนจะพุ่งขึ้น แล้วเราพบ fractal ดังภาพด้านล่างซึ่งเป็น fractals ชี้ลง bullish fractal ตามมาด้วยคลื่นตลาดขาขึ้น - ซึ่งอาจเป็นข้อบ่งชี้สำหรับเราว่าตลาดกำลังจะดำเนินต่อไปในทิศทางที่เป็นขาขึ้น ดังนั้นเราจะเข้า buy หลัง fractal นี้เกิดขึ้น แล้วจับตาดูแนวโน้มที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นต่อไปอีกตรรกะเดียวกันนี้จะใช้กับตลาดขาลง: เมื่อเราเห็นแนวโน้มขาลงและ fractal ชี้ขึ้นอย่างชัดเจนแล้วเราจะเข้า sell ตามความคาดหวังว่าตลาดจะเคลื่อนตัวลงต่อหมายเหตุ: ณ จุดนี้เราใช้ fractals เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่าเราเข้าใจความตั้งใจของตลาดอย่างถูกต้องแทนที่จะใช้แนวโน้มของตลาดเพื่อยืนยันการตีความ fractalPic 4 corrected.jpg
  2. Fractals + Alligator Bill Williams นั้นมีชื่อเสียงที่โด่งดังจากชุดตัวบ่งชี้ที่เขาได้พัฒนาขึ้น เช่น Alligator, Accelerator Oscillator และ Awesome Oscillator มันสมเหตุสมผลที่จะรวม fractals เข้ากับหนึ่งหรือหลายตัวบ่างชี้ดังกล่าวเนื่องจากพวกมันมีตรรกะภายในที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามเราต้องจำไว้ว่าการสังเกตแนวโน้มยังคงเป็นเสาหลักของการคาดการณ์ตลาดของเรา ด้วยเหตุผลนี้ขั้นตอนแรกของตรงนี่จึงไม่ต่างจากตัวอย่างก่อนหน้านี้: เราสังเกตเห็นคลื่นขาขึ้นในตลาด จากนั้นเราคลิกเพื่อเพิ่มตัวบ่งชี้ fractals และ Alligator ในภาพเราจะเห็นว่าราคาที่อยู่ตรง fractal ที่เลือกนั้นอยู่สูงกว่า fractal up ก่อนหน้าและเส้นสีแดงของ Alligator ในเวลาเดียวกัน - นั่นจะเป็นสัญญาณให้เข้า buy ในทางกลับกันถ้าราคาอยู่ต่ำกว่า fractal down และเส้นสีแดงของ Alligator เราจะเข้า sellดังนั้นวิธีการตรงนี้คือการเปรียบเทียบระดับของราคากับ fractal up หรือ down ก่อนหน้านี้กับเส้นสีแดงของ Alligator15.11.19-(3).jpg
  3. Fractals + Alligator (+ Awesome Oscillator and Accelerator Oscillator)ในตัวอย่างนี้ก็คล้ายๆกับตัวอย่างที่แล้วเพียงแต่เพิ่มการยืนยันด้วย Awesome Oscillator และ Accelerator Oscillator ให้เราดูที่ fractal เดิม และตรวจสอบว่ามันสอดคล้องกับ Awesome Oscillator และ Accelerator Oscillator หรือไม่ ราคาในตัวอย่างนี้อยู่เหนือเส้นแดงและพุ่งทะลุไปเหนือ fractal up ล่าสุด อีกทั้ง 2 คอลัมน์ล่าสุดของ Awesome Oscillator และ 3 คอลัมน์ล่าสุดของ Accelerator Oscillator เป็นสีเขียว ทั้งหมดนี้จะยืนยันได้ว่าตลาดตั้งใจจะพุ่งขึ้น เช่นนั้นเราจะเข้า buyPic 5 corrected.jpg

โปรดระวัง

หากเทรดเดอร์จะนำ fractal มาใช้จะต้องมีการปรับอะไรนิดๆหน่อยๆ

อันดับแรก ตัวบ่งชี้ Fractal มันเป็นตัวบ่งชี้ที่มีความล่าช้า กว่าที่ fractal จะก่อตัวเสร็จตลาดก็วิ่งไปไกลแล้ว ฉะนั้นจึงควรใช้ตัวบ่งชี้อื่นเข้ามาร่วมยืนยันเพิ่มเติม

อันดับสอง จะมี fractal ปรากฏเยอะมากบนแผนภูมิ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณควรเลือกกลยุทธ์ในการซื้อขายก่อนหรือตัดสินใจว่าจะทำการซายตาม fractal ไหน มิฉะนั้นการทำการซื้อขายตาม fractal ทุกตัวอาจนำไปสู่การสูญเสียและสุดท้าย fractals นั้นจะมีความน่าเชื่อถือเมื่อใช้มันในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่าแต่จำนวนของ fractal ก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน ตรงกันข้ามในกรอบเวลาที่เล็กลงจะมี fractal เยอะมากซึ่งมีความน่าเชื่อถือต่ำ

สรุป

Fractals ของ Bill Williams เป็นตัวบ่งชี้ที่มีความน่าสนใจที่มีเหตุผลบางประการที่อยู่เบื้องหลังและเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่เทรดเดอร์จำนวนมากใช้ในการซื้อขาย มันอาจเป็นส่วนประกอบที่ดีในระบบเครื่องมือการซื้อขายที่ใช้ระบุการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ของตลาดและทำการตัดสินใจทางเข้าซื้อขายอย่างมีข้อมูล ใช้อย่างระมัดระวัง, ซื้อขายตามแนวโน้ม แล้วคุณจะอยู่ในด้านที่ปลอดภัยของตลาด 

FBS Analyst Team

แบ่งปันกับเพื่อน:

คล้ายกัน

เปิดทันที

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา