ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกำลังรออะไรอยู่?
เงาแห่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังคลืบคลานไปบดบังตลาดพลังงานและน้ำมัน ด้วยความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกยูเครน นอกจากนี้ สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกกำลังพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซีย มาดูกันว่าความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อตลาด
1. ก๊าซธรรมชาติ
ตลาดพลังงานจะได้รับผลกระทบมากที่สุดหากความตึงเครียดกลายเป็นความขัดแย้งที่แท้จริงหรือในกรณีที่มีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย ถ้าพูดถึงเรื่องการขนส่งพลังงานแล้ว ยูเครนก็นับว่าเป็นผู้เล่นหลัก การส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียส่วนใหญ่จะถูกขนส่งผ่านยูเครน
ยุโรปพึ่งพารัสเซียในการจัดหาก๊าซธรรมชาติประมาณ 40% ซึ่งจะเคลื่อนผ่านท่อส่งที่พาดผ่านเบลารุสและโปแลนด์ไปยังเยอรมนี นอกจากนี้ Nord Stream 1 ยังส่งตรงไปยังเยอรมนีและประเทศอื่นๆทั่วยูเครน ส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้น เยอรมนีได้กล่าวว่าหากรัสเซียเข้าบุกยูเครน เยอรมนีอาจระงับท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ใหม่จากรัสเซีย หากมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ตลาดคาดว่าการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปตะวันตกผ่านทางยูเครนและเบลารุสจะลดลงอย่างมากซึ่งจะผลักดันราคาก๊าซให้สูงขึ้นเหนือ $6.3 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาเคยมาถึงในช่วงปลายปี 2021
2. น้ำมันดิบ
แน่นอนว่าตลาดน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรหรือการหยุดชะงักนี้เช่นกัน รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ราคาน้ำมันได้ทะลุ $90 ต่อบาร์เรลแล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 จากแถลงการณ์ทางการเมืองและข่าวต่างซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันแตะถึง $100 ต่อบาร์เรลในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากกลุ่มกบฏในเยเมน ข่าวเชิงลบก็คือการหยุดการสำรองน้ำมันที่จะส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
JP Morgan เชื่อว่าความตึงเครียดที่เกิดจากคุกคามนี้จะทำให้ "ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" พวกเขาได้ชี้ให้เห็นว่าราคาน้ำมันที่แตะระดับ $150 ต่อบาร์เรลจะลดการเติบโตของ GDP โลกลง 0.9% ต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปี และอัตราเงินเฟ้อจะเกิน 7.2%
3. สินทรัพย์ปลอดภัย
ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์มักจะผลักดันให้นักลงทุนกลับไปใช้พันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรเยอรมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด ครั้งนี้ก็อาจจะไม่ต่างกัน
ในตลาดสกุลเงิน EUR/CHF จะสะท้อนความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยูโรโซน ด้วยเหตุนี้ ฟรังก์สวิสจึงถือเป็นหนึ่งในที่หลบภัยที่มีศักยภาพมากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว สกุลเงินฟรังก์ได้แตะถึงระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015
4. ธัญพืชและข้าวสาลี
การหยุดชะงักใดๆที่เกิดขึ้นกับการขนส่งธัญพืชจากภูมิภาคทะเลดำอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเหล่านี้ อีกทั้งมันจะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้นอย่างรุนแรงหลังภาวะถดถอยที่เกิดจากโควิด-19
ผู้ส่งออกและผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่สี่ราย ได้แก่ ยูเครน รัสเซีย คาซัคสถาน และโรมาเนีย จะจัดส่งสินค้าจากท่าเรือทะเลดำ ความผิดปกติอาจเกิดขึ้นได้หากมีการดำเนินการทางทหารหรือการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
ตามข้อมูลของ International Grain Council คาดว่ายูเครนจะเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่อันดับสามของโลกในฤดูกาล 2021/22 และเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสี่ของรัสเซีย ส่วนรัสเซียจะเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคทะเลดำจะส่งผลกระทบต่อข้าวสาลี ธัญพืช และพลังงาน และจะผลักให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น