ก๊าซธรรมชาติเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจยุโรป
ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกำลังรออะไรอยู่?
อัปเดทแล้ว • 2022-02-01
เงาแห่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังคลืบคลานไปบดบังตลาดพลังงานและน้ำมัน ด้วยความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกยูเครน นอกจากนี้ สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกกำลังพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซีย มาดูกันว่าความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อตลาด
1. ก๊าซธรรมชาติ
ตลาดพลังงานจะได้รับผลกระทบมากที่สุดหากความตึงเครียดกลายเป็นความขัดแย้งที่แท้จริงหรือในกรณีที่มีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย ถ้าพูดถึงเรื่องการขนส่งพลังงานแล้ว ยูเครนก็นับว่าเป็นผู้เล่นหลัก การส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียส่วนใหญ่จะถูกขนส่งผ่านยูเครน
ยุโรปพึ่งพารัสเซียในการจัดหาก๊าซธรรมชาติประมาณ 40% ซึ่งจะเคลื่อนผ่านท่อส่งที่พาดผ่านเบลารุสและโปแลนด์ไปยังเยอรมนี นอกจากนี้ Nord Stream 1 ยังส่งตรงไปยังเยอรมนีและประเทศอื่นๆทั่วยูเครน ส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้น เยอรมนีได้กล่าวว่าหากรัสเซียเข้าบุกยูเครน เยอรมนีอาจระงับท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ใหม่จากรัสเซีย หากมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ตลาดคาดว่าการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปตะวันตกผ่านทางยูเครนและเบลารุสจะลดลงอย่างมากซึ่งจะผลักดันราคาก๊าซให้สูงขึ้นเหนือ $6.3 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาเคยมาถึงในช่วงปลายปี 2021
2. น้ำมันดิบ
แน่นอนว่าตลาดน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรหรือการหยุดชะงักนี้เช่นกัน รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ราคาน้ำมันได้ทะลุ $90 ต่อบาร์เรลแล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 จากแถลงการณ์ทางการเมืองและข่าวต่างซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันแตะถึง $100 ต่อบาร์เรลในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากกลุ่มกบฏในเยเมน ข่าวเชิงลบก็คือการหยุดการสำรองน้ำมันที่จะส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
JP Morgan เชื่อว่าความตึงเครียดที่เกิดจากคุกคามนี้จะทำให้ "ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" พวกเขาได้ชี้ให้เห็นว่าราคาน้ำมันที่แตะระดับ $150 ต่อบาร์เรลจะลดการเติบโตของ GDP โลกลง 0.9% ต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปี และอัตราเงินเฟ้อจะเกิน 7.2%
3. สินทรัพย์ปลอดภัย
ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์มักจะผลักดันให้นักลงทุนกลับไปใช้พันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรเยอรมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด ครั้งนี้ก็อาจจะไม่ต่างกัน
ในตลาดสกุลเงิน EUR/CHF จะสะท้อนความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยูโรโซน ด้วยเหตุนี้ ฟรังก์สวิสจึงถือเป็นหนึ่งในที่หลบภัยที่มีศักยภาพมากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว สกุลเงินฟรังก์ได้แตะถึงระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015
4. ธัญพืชและข้าวสาลี
การหยุดชะงักใดๆที่เกิดขึ้นกับการขนส่งธัญพืชจากภูมิภาคทะเลดำอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเหล่านี้ อีกทั้งมันจะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้นอย่างรุนแรงหลังภาวะถดถอยที่เกิดจากโควิด-19
ผู้ส่งออกและผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่สี่ราย ได้แก่ ยูเครน รัสเซีย คาซัคสถาน และโรมาเนีย จะจัดส่งสินค้าจากท่าเรือทะเลดำ ความผิดปกติอาจเกิดขึ้นได้หากมีการดำเนินการทางทหารหรือการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
ตามข้อมูลของ International Grain Council คาดว่ายูเครนจะเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่อันดับสามของโลกในฤดูกาล 2021/22 และเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสี่ของรัสเซีย ส่วนรัสเซียจะเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคทะเลดำจะส่งผลกระทบต่อข้าวสาลี ธัญพืช และพลังงาน และจะผลักให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
คล้ายกัน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด
ในช่วงเวลา 21:30 น. จะมีการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาโดยจะมี...
ข่าวล่าสุด
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่าให้รอเข้าเทรด SELL XAUUSD ที่ระดับ 2,180 ดอลลาร์ โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 2,130 ดอลลาร์ และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY NASDAQ (US500) ที่ระดับ 17,200 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 19,300 จุด และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY S&P 500 (US500) ที่ระดับ 4,850 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 5,200 จุด