เข้าร่วมโปรโมชัน FBS

รับรางวัล 100% ตั้งแต่อุปกรณ์แก็ดเจ็ตไปจนถึงรถยนต์ และชนะการจับรางวัลด้วยเงินรางวัลรวม 150,000 ดอลลารเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้านคืออะไร?

แนวรับและแนวต้านคือระดับราคาที่ราคาแตะและเด้งกลับอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ระดับแนวรับจะเกิดขึ้นเมื่อราคาหยุดร่วงหลังจากที่ร่วงลงมาอย่างยาวนานแล้วเริ่มขยับขึ้นอีกครั้ง นี่เป็นเพราะราคาที่ต่ำกว่าจะดึงดูดผู้ซื้อให้กลับมามีส่วนร่วมในตลาดอีกครั้งและผลักดันราคาให้สูงขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ระดับแนวต้านจะเกิดขึ้นเมื่อราคาเริ่มลดลงหลังจากที่เคลื่อนไหวขึ้นมาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ก่อนหน้านี้เริ่มขายโดยหวังว่าจะทำกำไรได้ สิ่งนี้จะสร้างแนวต้านและไม่อนุญาตให้ราคาไต่สูงขึ้นไปกว่านี้

โปรดทราบว่าสำหรับระดับราคาที่จะพิจารณาแนวรับและแนวต้าน เทรดเดอร์ควรทำการทดสอบระดับดังกล่าวหลาย ๆ ครั้งภายในระยะเวลาหนึ่ง

ประเภทของแนวรับและแนวต้าน

ในขณะที่ราคาเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ แนวรับและแนวต้านจะอยู่ที่เดิมหรือจะเปลี่ยนที่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีระดับแนวรับและแนวต้านสามประเภทหลัก ๆ

ระดับแนวรับและแนวต้านแบบคงที่

โซนแนวรับและแนวต้านบางส่วนนั้นจะคงที่ ซึ่งหมายความว่าราคาจะเคลื่อนที่มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่สำคัญ เพราะมันจะเด้งออกจากระดับเหล่านี้ได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง (แต่มันสามารถทะลุระดับเหล่านี้ได้) แนวรับและแนวต้านแบบคงที่มักเป็นผลพวงที่เกิดจากจิตวิทยาของเทรดเดอร์

เทรดเดอร์มักจะอาศัยข้อมูลในอดีตเพื่อแสดงให้เห็นว่าตลาดมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ซึ่งเป็นสาเหตุที่เทรดเดอร์จำนวนมากคาดหวังว่าแนวรับและแนวต้านในอดีตจะใช้ได้แม้กับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน ไม่ว่าระดับเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดหลายทศวรรษหรือไม่ก็ตาม เทรดเดอร์ก็ยังคงใช้มัน ซึ่งทำให้แนวรับและแนวต้านนั้นอยู่แบบคงที่

แนวรับและแนวต้านแบบคงที่ทั่วไปอื่น ๆ สามารถพบได้ที่ระดับตัวเลขกลม ๆ เช่น 10.30 หรือ 4.00 เนื่องจากในทางจิตวิทยาแล้วมันดูสมเหตุสมผลมากกว่าสำหรับเทรดเดอร์ที่จะส่งคำสั่งซื้อขาย ณ ราคาที่เป็นตัวเลขกลม ๆ

แนวรับและแนวต้านแบบไดนามิก

ระดับแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิกจะเปลี่ยนแปลงตามเวลาและมักจะปรับตามการเปลี่ยนแปลงราคาล่าสุด ระดับเหล่านี้ก่อตัวขึ้นเมื่อเทรดเดอร์วางวิจารณญาณของตนไว้บนการเคลื่อนไหว ณ ปัจจุบันของตลาดเท่านั้น พวกเขาจะวิเคราะห์กราฟราคาเพื่อระบุการพัฒนาใหม่ ๆ ในอุปสงค์และอุปทาน หากพวกเขาเห็นว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของราคามีผลกระทบ พวกเขาจะเปลี่ยนแผนและตัดสินใจเรื่องระดับแนวรับและแนวต้านใหม่

ระดับแนวรับและแนวต้านแบบกึ่งไดนามิก

ระดับแนวรับและแนวต้านแบบกึ่งไดนามิกเป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างระดับไดนามิกและระดับคงที่ เช่นเดียวกับระดับไดนามิก แนวรับและแนวต้านกึ่งไดนามิกจะเปลี่ยนแปลงไปตามราคา อย่างไรก็ตาม พวกมันจะเปลี่ยนแปลงในอัตราคงที่แทนที่จะขยับไปมาเพื่อปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ของตลาด นี่หมายความว่าเส้นที่ลากผ่านแนวรับหรือแนวต้านจะเป็นเส้นตรงแต่ชี้ขึ้นหรือลง

5 ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านที่ดีที่สุด

ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้เพื่อวางแผนการเทรดครั้งต่อไปให้ประสบความสำเร็จ นี่คือตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านที่ดีที่สุด

ตัวบ่งชี้ Fibonacci

ตัวบ่งชี้ Fibonacci ถูกนำมาใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านกึ่งไดนามิก เครื่องมือนี้จะอ้างอิงจากอัตราส่วน Fibonacci ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของช่วงราคาที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถช่วยเทรดเดอร์ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ อัตราส่วนเหล่านี้มาจากตัวเลข Fibonacci ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของลำดับตัวเลข โดยตัวเลขถัดไปแต่ละตัวจะเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า การหารตัวเลขในลำดับเฉพาะจะให้เปอร์เซ็นต์ที่เป็นไปได้สำหรับแนวรับและแนวต้าน: 61.8%, 38.2%, 23.6% และ 50%

ตัวบ่งชี้นี้ส่วนใหญ่จะมองหาการปรับฐานที่อาจเกิดขึ้นสวนกับแนวโน้มหลัก การใช้อัตราส่วน Fibonacci ในช่วงราคาหนึ่ง ๆ สามารถแสดงระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ ซึ่งราคามีแนวโน้มที่จะย้อนกลับทางเดิมที่มันเคยมา สิ่งนี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ตรวจพบจุดเข้าและจุดออกที่เป็นไปได้และเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการหากจำเป็น

ตัวบ่งชี้ Wolfe waves

แม้จะไม่ใช่ตัวบ่งชี้แบบดั้งเดิม Wolfe waves ก็ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกแก่เทรดเดอร์เกี่ยวกับแนวรับและแนวต้านได้

Wolfe wave เป็นรูปแบบที่จะก่อตัวขึ้นเมื่อราคาซื้อขายภายในช่วง จุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงของช่วงจะเลื่อนขึ้นหรือลงไปพร้อม ๆ กับราคา ทำให้เกิดเส้นตรงที่ขนานกัน ซึ่งเส้นเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นระดับแนวรับและแนวต้าน

เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้ว Wolfe wave เป็นรูปแบบหนึ่ง มันจึงมักจะเกิดขึ้นก่อนการกลับตัวของแนวโน้ม ตามกฎแล้ว ในการแกว่งตัวครั้งที่ 5 ของรูปแบบ ราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้าน จากนั้นจึงกลับตัวแล้วเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางนี้ การระบุรูปแบบนี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ค้นหาจุดเข้าหรือจุดออกที่เป็นไปได้

ตัวบ่งชี้ Pivot point

ตัวบ่งชี้ Pivot point จะช่วยเทรดเดอร์ในการระบุจุดเข้าและจุดออกที่เป็นไปได้โดยการวาดเส้นผ่านจุดหมุน (pivot point) ที่ตลาดมักจะเปลี่ยนทิศทางของการเคลื่อนที่ ในการคำนวณ Pivot point ตัวบ่งชี้จะใช้ค่าเฉลี่ยของราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดรวมถึงราคาปิดของวันก่อนหน้า

เส้นที่ถูกวาดอยู่บนกราฟจะแสดงให้เห็นระดับแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ สิ่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเตรียมปิดหรือเปิดคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้ อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่เด้งออกจากระดับใดระดับหนึ่ง นั่นแสดงว่าขณะนี้แนวโน้มกำลังแข็งแกร่ง ดังนั้นเทรดเดอร์จึงต้องเรียนรู้ทิศทางของแนวโน้มด้วย

ตัวบ่งชี้ Camarilla pivot point

ตัวบ่งชี้ Camarilla pivot point ตั้งอยู่บนทฤษฎีที่ว่าราคามีแนวโน้มที่จะกลับไปหาค่าเฉลี่ยของมันในช่วงเวลาที่จำกัดช่วงหนึ่ง ตัวบ่งชี้ Camarilla pivot point สามารถระบุระดับแนวรับและแนวต้านระหว่างวันที่อาจเกิดขึ้นได้โดยใช้ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดเฉลี่ยของวันซื้อขายก่อนหน้าและตัวเลข Fibonacci ซึ่งเป็นผลให้ตัวบ่งชี้ทำเครื่องหมายแปดระดับที่อาจทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านของแนวโน้มปัจจุบัน

เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเทรดรอบ ๆ ระดับทั้งแปดนี้ได้ กระทิงอาจวางคำสั่งซื้อบริเวณแนวรับ ในขณะที่หมีจะเน้นซื้อขายบริเวณแนวต้าน

ตัวบ่งชี้ Murrey Math Lines (MML)

ตัวบ่งชี้ Murrey Math Lines (MML) จะประกอบด้วยเส้นเก้าเส้น (รวมถึงระดับศูนย์) ที่ถูกวาดลงบนกราฟซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้าน เส้นเหล่านี้ถูกคำนวณโดยใช้สูตรที่แนะนำโดย T. Henning Murrey ซึ่งอ้างอิงจากทฤษฎีของ W. D. Gann ที่ว่าราคามีแนวโน้มที่จะย้อนกลับที่ช่วง 1/8 นั่นเป็นเหตุผลที่ตัวบ่งชี้ MML ประกอบด้วยแปดระดับราคา

นอกจาก MML จะสามารถเปิดเผยแนวรับและระดับการกลับตัวที่เป็นไปได้แล้ว พวกมันก็ยังสามารถบอกเทรดเดอร์ได้มากขึ้นเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของการเคลื่อนที่ของราคาได้ด้วย แนวรับและแนวต้าน MML ที่แข็งแกร่งที่สุดคือเส้นล่าง กลาง และบน (0/8, 4/8 และ 8/8 ตามลำดับ) ซึ่งราคามักจะเด้งออกและย้อนกลับ ช่วงระหว่างเส้น 3/8 ถึง 5/8 ถือเป็นช่วงการซื้อขายมาตรฐาน ในขณะที่ 2/8 และ 6/8 จะทำหน้าที่เป็นจุดกลับตัวที่แข็งแกร่ง และโดยทั่วไปจะบ่งชี้ว่าสินทรัพย์มีการขายมากเกินไปหรือซื้อมากเกินไป

ตัวอย่างแนวรับและแนวต้านในการเทรด

ราคาแทบจะไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเลย มันจะพุ่งขึ้นเมื่อชนแนวรับจากผู้ซื้อ และร่วงลงเมื่อชนแนวต้านจากผู้ขาย ดังที่คุณเห็นในกราฟ การกลับไปกลับมานี้สามารถดำเนินต่อไปได้อีกระยะหนึ่งเนื่องจากทั้งสองฝ่ายต้องการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ของตลาด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะหมดความสนใจใน "การต่อสู้" แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายชนะไป เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้านแล้วเคลื่อนที่ต่อไปเกินช่วงที่แข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากกราฟด้านบน

โปรดทราบว่าเมื่อระดับแนวต้านถูกทำลาย มันก็จะไม่ทำหน้าที่ของมันอีกต่อไปเนื่องจากราคาได้ไปอยู่เหนือระดับนั้นแล้ว แต่มันจะเปลี่ยนเป็นระดับแนวรับใหม่แทน ซึ่งราคาจะดีดกลับเมื่อแนวโน้มเคลื่อนไปข้างหน้า

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

ติดต่อเรา

@@@@
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
App Store
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/6 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น