สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ แรงจูงใจที่จะใช้เลเวอเรจสูงเพื่อเพิ่มผลกำไรอาจมีมาก แต่ต้องระวัง! เลเวอเรจเป็นดาบสองคมที่ทั้งทรงพลังและอันตราย แล้วจะเลือกใช้เลเวอเรจที่เหมาะสมกับบัญชีขนาดเล็กได้อย่างไร? ไปหาคำตอบกัน!
เลเวอเรจ: ข้อดีและความเสี่ยง
เลเวอเรจช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเทรดขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย (มาร์จิ้น) แต่นี่ไม่ใช่เงินทุนฟรี โดยพื้นฐานแล้วคุณกำลังกู้เงินจากโบรกเกอร์เพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ขึ้น หากคุณมีเงินในบัญชีเพียง 10 ดอลลาร์ ด้วยเลเวอเรจ 1:50 เงิน 10 ดอลลาร์ ของคุณจะสามารถควบคุมคำสั่งซื้อขายได้สูงถึง 500 ดอลลาร์ ข้อควรระวังสำคัญคือ แม้เลเวอเรจจะช่วยทวีคูณกำไรได้ แต่ก็สามารถทวีคูณความสูญเสียได้เช่นกัน
มาร์จิ้นคือจำนวนเงินที่โบรกเกอร์สำรองจากบัญชีของคุณเพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายแบบใช้เลเวอเรจ คิดซะว่าเหมือนเป็นการวางเงินประกัน - มันช่วยให้คุณสามารถกู้เงินจากโบรกเกอร์เพื่อควบคุมคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ได้
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณต้องการเทรด EURUSD ขนาด 0.01 ล็อต (1,000 ยูนิต) หากโบรกเกอร์ของคุณให้เลเวอเรจ 1:50 จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องการจะเท่ากับ $20 (1,000 ÷ 50) นั่นหมายความว่าคุณต้องมีเงิน $20 ในบัญชีเพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายนี้
ความเสี่ยงของการใช้เลเวอเรจ:
การขยายตัวของความสูญเสีย
การเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin calls) เมื่อตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับที่คุณคาดการณ์ โบรกเกอร์อาจจะปิดสถานะของคุณ
การสูญเสียเงินทุนทั้งหมด - คำสั่งซื้อขายที่ไม่ดีเพียงคำสั่งเดียวที่ใช้เลเวอเรจสูงอาจทำให้ยอดเงินในบัญชีของคุณหมดเกลี้ยงได้
การเทรดเกินขนาด บางครั้งการเข้าถึงเลเวอเรจได้ง่ายอาจทำให้คุณเทรดแบบหุนหันพลันแล่น
วิธีการเลือกอัตราส่วนเลเวอเรจที่เหมาะสม
ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
ประสบการณ์ของคุณ คุณควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำเสมอ ระมัดระวังไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะข้อผิดพลาดจะไม่ทำให้คุณเสียหายมากเกินไป ค่อย ๆ เพิ่มเลเวอเรจเฉพาะเมื่อคุณสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว
ขนาดบัญชี บางครั้งการอยากใช้เลเวอเรจสูงเมื่อเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดมาก แต่อย่ายอมจำนนต่อความอยากนี้ จำไว้ว่าเลเวอเรจสูงเช่น 1:500 หรือ 1:1000 สามารถล้างบัญชีขนาดเล็กได้อย่างรวดเร็ว
ระดับความยอมรับความเสี่ยงของคุณ เลเวอเรจต่ำหมายถึงความเสี่ยงที่ต่ำลงต่อคำสั่งซื้อขาย มาดูกันว่าความยอมรับความเสี่ยงสัมพันธ์กับขนาดบัญชีอย่างไร:
| ขนาดบัญชี | ความเสี่ยงต่ำ | ความเสี่ยงปานกลาง | ความเสี่ยงสูง |
| $5 | 1:15 | 1:25 | 1:45 |
| $10 | 1:15 | 1:20 | 1:40 |
| $30 | 1:10 | 1:15 | 1:35 |
| $50 | 1:10 | 1:12 | 1:30 |
สำหรับนักเทรดมือใหม่ที่มีบัญชีขนาดเล็ก (10-50 ดอลลาร์) อัตราเลเวอเรจที่เหมาะสมที่สุดมักจะอยู่ที่ประมาณ 1:10 นี่เป็นจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไร
เป็นมือใหม่ใช่ไหม? เริ่มต้นเทรดอย่างชาญฉลาดด้วยเลเวอเรจที่เหมาะสม และปกป้องบัญชีของคุณ เทรดอย่างปลอดภัยไปกับ FBS วันนี้!
คำนวณขนาดคำสั่งซื้อขายของคุณ
เพื่อให้เลเวอเรจสอดคล้องกับความเสี่ยง ให้ใช้เครื่องมือคำนวณขนาดคำสั่งซื้อขาย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีเงินในบัญชี 10 ดอลลาร์ และใช้เลเวอเรจ 1:20 คุณจะสามารถควบคุมออร์เดอร์ได้ 200 ดอลลาร์ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดนั้น ที่จริงแล้วคุณควรเสี่ยงแค่ 1-2% ของเงินทุนต่อคำสั่งซื้อขาย คุณอาจเทรดขนาด 0.08 ล็อต (ไมโครล็อต) พร้อมตั้ง Stop Loss ที่ 50 pip
ใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยงจะช่วยป้องกันปัญหาและลดการสูญเสียในระยะยาว ดังนั้นจงอย่าละเลย!
ใช้ Stop Loss ทุกครั้ง เพื่อจำกัดความสูญเสีย และใช้ Take Profit เพื่อรักษากำไรที่ได้
ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนต่อคำสั่งซื้อขาย
เทรดแค่ไมโครล็อต (0.01) หากบัญชีของคุณมีเงินน้อยกว่า 100 ดอลลาร์
ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองก่อนเทรดจริง
ก่อนใช้เงินจริง ให้ลองทดสอบกลยุทธ์ของคุณโดยใช้บัญชีทดลอง
เปิดบัญชีทดลองกับโบรกเกอร์ของคุณ ตัวอย่าง คุณอาจลองทดลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ ผ่านบัญชีทดลองของFBS ใน FBS Personal Area
ตั้งค่าเลเวอเรจให้เท่ากับที่คุณวางแผนจะใช้จริง (เช่น 1:10)
ฝึกการใช้ Stop-Loss และการจัดการขนาดล็อต
ติดตามผลการเทรดของคุณอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างละเอียด
อย่าปล่อยให้เลเวอเรจสูงทำลายคุณ! เรียนรู้วิธีเพิ่มเงินทุนอย่างปลอดภัย — เปิดบัญชีทดลองกับ FBS วันนี้
ตรวจสอบระดับมาร์จิ้น
ระดับมาร์จิ้นคือ เงินทุน (ยอดเงินคงเหลือของคุณ + กำไร/ขาดทุนลอยตัว) หารด้วย มาร์จิ้นที่ใช้ (มาร์จิ้นทั้งหมดที่ถูกล็อกสำหรับสถานะที่เปิดอยู่) คูณผลลัพธ์ด้วย 100 และคุณจะได้ระดับมาร์จิ้นที่แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
ระดับมาร์จิ้นที่ปลอดภัยคือสูงกว่า 300% หากคุณเห็นแบบนี้ แสดงว่าคุณใช้มาร์จิ้นอย่างระมัดระวัง ช่วงระหว่าง 100% ถึง 300% จะเริ่มมีความเสี่ยง: ต้องจัดการคำสั่งซื้อขายของคุณให้ดี โซนอันตรายเริ่มต่ำกว่า 100%:โบรกเกอร์อาจปิดตำสั่งซื้อขายของคุณได้ (คือมีความเสี่ยงที่จะถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม)
ทบทวนและปรับคำสั่งซื้อขาย
หมั่นจดบันทึกการเทรดและวิเคราะห์ผลเป็นประจำ ปรับเลเวอเรจหรือขนาดคำสั่งซื้อขายหากคุณใกล้จะขาดทุนจนยอดเงินหมด เป้าหมายของคุณควรได้กำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่รวยข้ามคืน!
พร้อมเทรดแล้วใช่ไหม? ใช้เลเวอเรจในระดับที่เหมาะสำหรับมือใหม่กับ FBS เพื่อรักษาทุนของคุณให้ปลอดภัย