อาวุธลับของเทรดเดอร์: คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า

เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องเลือกว่าจะซื้อหรือขายอยู่เสมอ คำสั่ง limit จึงมี 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ buy limit และ sell limit ส่วน คำสั่ง stop ก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภทเช่นกัน ได้แก่ คำสั่ง buy stop และ sell stop

มาเริ่มต้นกันด้วย คำสั่ง limit

สมมติว่าคุณเชื่อว่าราคาที่กำลังลงในตอนนี้จะเด้งกลับจากระดับหนึ่งแล้วกลับตัวขึ้นมาใหม่ คุณควรวางคำสั่ง BUY LIMIT ที่ระดับที่คุณคิดว่าจะเป็นจุดกลับตัวของราคา (ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน) ด้วยคำสั่งประเภทนี้ คุณจะสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่าได้

ในทางกลับกัน บางครั้งคุณอาจเห็นว่าราคากำลังขึ้นแต่คุณมั่นใจว่าราคาจะเจอแนวต้านที่แข็งแกร่ง จากนั้นจะกระดอนกลับแล้วกลับตัวลงมา ในกรณีนี้ คุณควรวางคำสั่ง SELL LIMIT สูงกว่าราคาปัจจุบัน คุณสมบัติของคำสั่งประเภทนี้คือคุณจะสามารถขายในราคาที่สูงกว่าได้

สังเกตว่าคุณจะใช้คำสั่ง limit เมื่อคุณคาดว่าแนวรับหรือแนวต้านจะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของราคาได้ ทีนี้มาดูอีกประเภทหนึ่งของคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า นั่นคือคำสั่ง stop

ลองจินตนาการว่าราคากำลังขึ้นและคุณมั่นใจว่าถ้ามันไปถึงระดับหนึ่ง มันจะขึ้นต่ออีก ในกรณีนี้คุณควรวางคำสั่ง BUY STOP ที่ระดับสูงกว่าราคาปัจจุบัน

ในทางกลับกัน สมมติว่าราคากำลังลงและคุณมองว่าหลังจากมันไปถึงระดับหนึ่งแล้วมันจะลงต่ออีก เช่นนั้น คุณก็ควรวางคำสั่ง SELL STOP ที่ระดับต่ำกว่าราคาปัจจุบัน

คุณอาจมีคำถามว่า ทำไมต้องใช้คำสั่ง stop ถ้าราคาไม่กระดอนแถมยังเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิม? ฉันสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่าหรือขายในราคาที่สูงกว่าได้ไม่ใช่หรือ? จริง ๆ แล้วคำสั่ง stop ถูกใช้เพื่อยืนยันทิศทางของราคาอย่างแม่นยำ หากคู่เงินไปถึงระดับที่กำหนด คุณจะมั่นใจได้ว่าราคาจะไปต่อ หากไม่เป็นเช่นนั้น ราคาก็จะกระดอนกลับก่อนถึงระดับที่คุณเลือก

สรุป

คำสั่งซื้อขายล่วงหน้าเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยลดทั้งความเหนื่อยล้าและเวลาที่คุณต้องจ้องจอ ยิ่งไปกว่านั้น คำสั่งซื้อขายล่วงหน้ายังช่วยให้คุณมั่นใจในทิศทางราคาในอนาคต ซึ่งช่วยให้คุณเข้าตลาดได้ในราคาที่น่าสนใจที่สุด มันเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและทำกำไรได้มากขึ้น!