ตลาดหุ้นฝรั่งเศสกำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งวิกฤตการเมือง และหนี้สาธารณะที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน

ภาพรวมตลาด

       แม้ว่าภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสจะส่งสัญญาณเชิงบวกในเดือนมิถุนายน โดยตัวเลขการผลิตพุ่งขึ้นถึง 3.8% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ (ไม่นับช่วงฟื้นตัวหลังโควิด) แต่แรงหนุนดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความเปราะบางของเศรษฐกิจโดยรวม การเติบโตที่ได้แรงสนับสนุนจากอุตสาหกรรมการบินโดยเฉพาะ Airbus จึงมีลักษณะเป็นเพียงแรงผลักดันชั่วคราว ขณะที่แรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองและการคลังเริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนอย่างเด่นชัด นักลงทุนจึงยังคงระมัดระวังในการประเมินแนวโน้มระยะกลางถึงยาว

       การขยายตัวของ GDP ฝรั่งเศสที่ระดับ 0.3% ในไตรมาสสอง แม้จะดีกว่าในไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ยังสะท้อนถึงความเปราะบาง เพราะเมื่อเจาะลึกพบว่าการค้าระหว่างประเทศยังเป็นภาระสำคัญ โดยการนำเข้ายังคงเติบโตเร็วกว่าการส่งออก ขณะที่การบริโภคภายในประเทศยังทรงตัวและขาดแรงขับเคลื่อน การคาดการณ์ GDP ทั้งปี 2025 จึงถูกปรับลดเหลือไม่เกิน 0.6% ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่กดดันดัชนี FR40

       บรรยากาศทางการเมืองที่เปราะบางยังซ้ำเติมความเสี่ยงต่อตลาดหุ้น ฝ่ายค้านที่ไม่สนับสนุนแผนลดงบประมาณของรัฐบาล ทำให้ความเสี่ยงต่อการล่มสลายของรัฐบาล Bayrou เพิ่มขึ้นชัดเจน ส่งผลให้ดัชนี FR40 ร่วงแรง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่เผชิญแรงกดดันจากต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น รวมถึงความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ขณะเดียวกัน ความกังวลว่าฝรั่งเศสอาจเข้าสู่ภาวะที่ต้องให้ IMF เข้ามาแทรกแซง ยิ่งกระตุ้นแรงขายในตลาดทุนให้รุนแรงขึ้น
       แม้อัตราการว่างงานโดยรวมยังคงที่ที่ระดับ 7.5% แต่เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปยังพบความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอัตราว่างงานในกลุ่มเยาวชนซึ่งยังสูงถึง 19% และการจ้างงานของผู้ชายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่นโยบายใหม่อย่าง กฎหมายการจ้างงานเต็มรูปแบบก็ยังไม่ส่งผลลัพธ์ชัดเจนในทางปฏิบัติ ภาวะเช่นนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าโครงสร้างเศรษฐกิจของฝรั่งเศสยังมีความเปราะบางต่อเนื่อง และอาจกดดันให้ดัชนี FR40 เคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อไปอีกระยะหนึ่ง

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
FR40     

        ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบเทรนไลน์ขาลงอย่างชัดเจน และแม้ว่าจะพยายามปรับตัวขึ้นมาทดสอบกรอบแนวต้านสีแดง แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้อย่างมั่นคง ตราบใดที่ราคายังถูกจำกัดให้อยู่ต่ำกว่ากรอบแนวต้านดังกล่าว ภาพรวมยังคงสะท้อนถึงแรงกดดันจากฝั่งขายที่มีน้ำหนักมากกว่า ส่งผลให้โมเมนตัมขาลงยังไม่หมดไป และราคายังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อไปทดสอบแนวรับบริเวณ 7,520 จุด แต่ถ้าราคาทะลุกรอบแนวต้านสีแดงขึ้นไปได้ ราคาก็มีโอกาสเปลี่ยนมาเป็นขาขึ้น

FR40 (DAILY)