FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม

09 ก.ค. 2025

พื้นฐาน

สัญญาคงค้าง (Open Interest) คืออะไร และมันทำงานอย่างไรในการเทรด?

สัญญาคงค้าง (Open Interest) คืออะไร และมันทำงานอย่างไรในการเทรด?

สงสัยไหมว่าสัญญาคงค้าง (Open Interest) คืออะไร และมีบทบาทอย่างไรในตลาดที่เต็มไปด้วยข้อมูล? ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีการทำงาน ความสำคัญ และวิธีนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์

สัญญาคงค้าง (open interest) คืออะไร?

การเข้าใจเรื่องสัญญาคงค้างเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากได้รับประสบการณ์ในตลาดฟิวเจอร์ส หรือ ออปชัน

สัญญาคงค้าง (Open Interest - OI) หมายถึง จำนวนรวมของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์สหรือออปชัน) ที่ยังเปิดอยู่และยังไม่ได้ปิดหรือหมดอายุเมื่อสิ้นวันซื้อขาย สัญญาคงค้างไม่ใช่ตัวชี้วัดราคาหรือปริมาณการซื้อขายรายวัน แต่เป็นตัววัดความมุ่งมั่นแบบเปิดในตลาด

คุณสามารถใช้สัญญาคงค้าง (ร่วมกับปริมาณการซื้อขายและราคา) เพื่อวัดสภาพคล่อง ยืนยันแนวโน้ม และคาดการณ์จุดเปลี่ยนในตลาด

วิธีการทำงานของสัญญาคงค้าง

แต่ละสัญญาจะมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยสัญญาคงค้างจะนับเป็น 1 สัญญาต่อ 1 คู่ สัญญาคงค้างจะเพิ่มขึ้น เมื่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเปิดสัญญาใหม่ และสัญญาคงค้างจะลดลง เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปิดสถานะหรือหักล้างสัญญาที่มีอยู่

  • ผู้ซื้อใหม่ + ผู้ขายใหม่ = สัญญาคงค้างเพิ่มขึ้น

  • ผู้ซื้อหรือผู้ขายปิดสถานะ = สัญญาคงค้างลดลง

  • สัญญาเปลี่ยนมือระหว่างคู่สัญญา = จำนวนสัญญาคงค้างไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากสัญญายังคงเปิดอยู่

ตลาดจะรายงานยอดสัญญาคงค้างสุดท้ายของวันในแต่ละเดือนส่งมอบหรือราคาใช้สิทธิ์ - นี่คือวิธีที่เทรดเดอร์สามารถติดตามยอดเพิ่มขึ้นหรือลดลงสุทธิของความเสี่ยงที่เปิดอยู่ ตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นว่าสัญญาคงค้างและการเคลื่อนไหวของราคานั้นสะท้อนทิศทางของแนวโน้มอย่างไร

image 1 TH.jpg

สัญญาคงค้างเปรียบเสมือนสินค้าคงคลังในคลังสินค้า - มันแสดงถึงสัญญาที่ยัง "อยู่ในระบบ" และจะหายไปก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบจริงหรือหักล้างสัญญาเท่านั้น ดังนั้นสัญญาคงค้างจะมีความต่อเนื่องไม่เหมือนปริมาณการซื้อขายรายวันที่รีเซ็ตทุกวัน

สัญญาคงค้าง vs ปริมาณการซื้อขาย: กำลังเกิดอะไรขึ้นในตลาด?

ปริมาณการซื้อขายนับทุกธุรกรรมในหนึ่งวัน (สัญญาเดียวกันอาจถูกนับหลายครั้งเมื่อเปลี่ยนมือผู้ถือ) ในขณะที่สัญญาคงค้างจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะเมื่อมีการเปิดสัญญาใหม่ (เพิ่มขึ้น) หรือปิดสัญญาเดิม (ลดลง) ดังนั้นสัญญาคงค้างจึงช่วยติดตามการเติบโตหรือลดลงของความสนใจในตลาด แทนที่จะวัดเพียงกิจกรรมการซื้อขายเหมือนปริมาณการซื้อขาย

สำคัญ: ปริมาณการซื้อขายจะสะท้อนกิจกรรมรายวัน ในขณะที่ สัญญาคงค้างจะบ่งบอกถึงผลผูกพันที่มีอยู่ ลองดูตัวอย่างตลาดฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ

  • ในวันแรก มีสัญญาใหม่ 500 สัญญาที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อใหม่ ปริมาณการซื้อขาย = 500 และ สัญญาคงค้าง = 500

  • ในวันที่สอง สัญญาเหล่านี้ถูกซื้อขายกลับไปกลับมา 1,000 ครั้ง แต่ยังไม่ปิด ปริมาณการซื้อขาย = 1,000 ในขณะที่สัญญาคงค้างยังคงอยู่ที่ 500

  • ในวันที่สาม มีการหักล้างสัญญา 200 สัญญา ปริมาณการซื้อขาย = 200 และ สัญญาคงค้าง = 300

นี่คือวิธีที่สัญญาคงค้างช่วยลดการหมุนเวียนภายในวันและเน้นย้ำว่าการเปิดรับความเสี่ยงกำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลง

อยากเทรดอย่างมั่นใจหรือเปล่า? เทรดกับ FBS สิ!

ทำไมสัญญาคงค้างจึงมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์

สัญญาคงค้างเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ:

  • กิจกรรมและสภาพคล่องในตลาด ยิ่งสัญญาคงค้างมีมากขึ้น นั่นแสดงว่ามีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น และทำให้สภาพคล่องสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อเทรดในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง คุณสามารถคาดหวังได้ว่า Bid-Ask Spread ที่แคบกว่า การส่งคำสั่งที่ดีขึ้น เกิด Slippage น้อยลง และ Order Book ที่มีความลึกมากขึ้นในสัญญายอดนิยม ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเทรด ในทางกลับกัน สัญญาคงค้างต่ำอาจบ่งชี้ว่าตลาดมีความบาง (Thin Market) และเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือการปั่น โดยเฉพาะเทรดเดอร์ออปชันมักวิเคราะห์สัญญาคงค้างในแต่ละราคาใช้สิทธิเพื่อประเมินว่าสถานะซื้อขายขนาดใหญ่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุอย่างไร

  • ความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของแนวโน้ม สัญญาคงค้างที่ลดลงอาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มกำลังอ่อนกำลังลง และในทางกลับกัน สัญญาคงค้างที่เพิ่มขึ้นจะบ่งชี้ว่ามีการเปิดสถานะใหม่เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคา การเข้าใจสัญญาณนี้จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงจากการทะลุหลอก และเทรดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงการเคลื่อนไหวของราคาเสมอ เมื่อสัญญาคงค้างเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของราคา เป็นไปได้ว่าเงินทุนใหม่หรือการปิดสถานะขายชอร์ตจะขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวและสามารถรักษาแนวโน้มไว้ได้ เมื่อราคาสูงขึ้นและสัญญาคงค้างยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหรือลดลง แนวโน้มขาขึ้นอาจเกิดจากการปิดสถานะขายชอร์ตหรือสภาพคล่องบาง — โมเมนตัมอ่อนแอ เมื่อราคาตก สัญญาคงค้างที่เพิ่มขึ้นจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันบังคับขาย และสัญญาคงค้างที่ลดลงจะบ่งชี้ถึงการถูกบังคับชำระบัญชีแทนที่จะเป็นการขายชอร์ตแบบก้าวร้าวครั้งใหม่

  • การกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น เห็นสัญญาคงค้างลดลงอย่างรวดเร็วงั้นเหรอ? นี่มักเป็นสัญญาณของการเก็บกำไรหรือความอ่อนแรง และอาจนำไปสู่การกลับตัวหรือเคลื่อนไหวในแนวข้าง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรพึ่งพาเพียงเครื่องมือเดียว ให้ใช้สัญญาคงค้างร่วมกับสัญญาณอื่น ๆ เช่น Divergence, RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อหาจุดเปลี่ยนของตลาดให้แม่นยำยิ่งขึ้น

  • ความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์ (โดยเฉพาะในตลาดออปชัน) สัญญาคงค้างที่ราคาใช้สิทธิและประเภท (Call vs Put) สามารถให้คำบอกใบ้เกี่ยวกับทิศทางที่เทรดเดอร์คาดหวังให้ตลาดเคลื่อนที่ไป สัญญาคงค้างในสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามักจะเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ตลาดมีความไม่แน่นอน ซึ่งสะท้อนถึงการป้องกันความเสี่ยงหรือความเชื่อมั่นในขาลง ในทางกลับกัน สัญญาคงค้างในสถานะ calls อาจเพิ่มขึ้นเมื่อเทรดเดอร์คาดหวังแนวโน้มขาขึ้น

พอร์ตการลงทุนในอนาคตของคุณเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้! มาสำรวจการเทรดกับ FBS กันเถอะ

วิธีวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสัญญาคงค้าง

สัญญาคงค้าง เป็นเครื่องมือทรงพลังที่มักถูกใช้งานน้อยเกินไป แม้ว่ามันไม่ได้ให้สัญญาณซื้อหรือขายที่ชัดเจนในตัวเอง แต่เมื่อรวมกับราคาและปริมาณการซื้อขายแล้ว มันจะช่วยเพิ่มบริบทที่มีคุณค่าให้การวิเคราะห์ การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสัญญาคงค้างจะช่วยคุณในการติดตามความเชื่อมั่นของตลาด และจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น นี่คือวิธีวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสัญญาคงค้าง:

  1. กำหนดแนวโน้มราคาปัจจุบัน

  2. ถามตัวเองว่าสัญญาคงค้างกำลังเพิ่มขึ้น คงที่ หรือลดลง?

  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าริมาณการซื้อขายยืนยันสิ่งที่สัญญาคงค้างบ่งชี้

ตัวอย่างเช่น ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นพร้อมกับสัญญาคงค้างที่เพิ่มขึ้นและปริมาณการซื้อขายที่เหมาะสม บ่งชี้ถึงความต้องการซื้อโดยรวมที่แข็งแกร่ง หากราคาสูงขึ้นแต่สัญญาคงค้างคงที่และปริมาณการซื้อขายลดลง การปรับตัวขึ้นนี้อาจขาดแรงสนับสนุนจากภายใน ในทางกลับกัน แนวโน้มราคาในแนวนอนที่ควบคู่ไปกับสัญญาคงค้างและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจหมายถึงการสะสมราคาที่นำไปสู่การทะลุในที่สุด

ลองดูสัญญาฟิวเจอร์สทองแดงเดือนธันวาคมที่ปรับตัวขึ้นจาก 3.50 ดอลลาร์ เป็น 4.20 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ในระยะเวลา 6 สัปดาห์ ขณะที่สัญญาคงค้างเพิ่มขึ้นจาก 120,000 เป็น 180,000 สัญญา ซึ่งยืนยันแนวโน้มขาขึ้น หลังจากนั้น ทองแดงทำจุดสูงสุดใหม่เล็กน้อยในอีก 3 เซสชั่นถัดมา แต่สัญญาคงค้างลดลงเหลือ 170,000 สัญญา และปริมาณการซื้อขายรายวันก็ลดลง ความแตกต่างนี้เป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังมีการกระจายสัญญา Long ออกไปอย่างแข็งแกร่ง การที่ราคาทะลุระดับแนวรับระยะสั้นลงมาในเซสชั่นต่อมาจะยืนยันสัญญาณเตือนนี้และเป็นสัญญาณให้เทรดเดอร์ที่ใช้ข้อมูลสัญญาคงค้างเริ่มจัดการความเสี่ยงให้รัดกุมขึ้น

ข้อจำกัดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด

สัญญาคงค้างเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่คุณไม่ควรพึ่งพามันเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมันไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแท้จริง

  • สัญญาคงค้างจะถูกอัปเดตเพียงวันละครั้ง ดังนั้นข้อมูลจึงล่าช้าแบบไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนสัญญาตามฤดูกาลยังบิดเบือนตัวเลขโดยรวม เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดจะโยกสัญญาที่ใกล้หมดอายุไปยังสัญญาเดือนถัดไป ควรดูรอบวันหมดอายุและชุดข้อมูลต่อเนื่องเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

  • สัญญาคงค้างจะไม่แสดงทิศทาง การที่สัญญาคงค้างเพิ่มขึ้นอาจหมายถึงมีผู้เล่น Long มากขึ้น หรือมีผู้เล่น Short มากขึ้นก็ได้ เนื่องจากแต่ละสัญญาแสดงถึงทั้งสองฝ่ายของการเทรด วิธีแก้คือนำข้อมูลนี้มาประกอบกับการเคลื่อนไหวของราคา ออปชั่นสคิว (options skew) หรือการจำแนกประเภทของเทรดเดอร์ เช่น รายงาน Commitment of Traders ของ CFTC เพื่อการยืนยันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

การใช้สัญญาคงค้างจะช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นและเพิ่มความเข้าใจในบริบทของตลาด แต่ก็อย่าลืมติดตามปริมาณการซื้อขายและเส้นแนวโน้มควบคู่ไปด้วย ในตลาดออปชั่น ให้วิเคราะห์สัญญาคงค้างตามราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเพื่อระบุระดับสำคัญ

สำรจการลงทุนอย่างชาญฉลาดกับ FBS — เริ่มเทรดวันนี้!

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก