25 ก.ค. 2025

พื้นฐาน

กองทุนรวมตลาดเงิน (Money market fund) คืออะไร?

กองทุนรวมตลาดเงิน (Money market fund) คืออะไร?

บางครั้งคุณอาจมีเงินสดส่วนเกินและไม่รู้ว่าจะนำไปใช้ทำอะไรดี แทนที่จะปล่อยให้เงินนั้นอยู่เฉย ๆ และสูญเสียมูลค่าลงเรื่อย ๆ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ คุณสามารถนำเงินนั้นไปลงทุนในกองทุนที่สร้างผลตอบแทนให้คุณได้ แถมยังสามารถถอนเงินออกมาใช้เมื่อใดก็ตามที่ต้องการ หากคุณรับได้กับผลตอบแทนที่อาจไม่สูงนัก แต่แลกกับความมั่นคงและสภาพคล่องที่ดี การนำเงินไปลงทุนใน กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund - MMF) อาจเป็นทางออกที่เหมาะสำหรับคุณ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า กองทุนรวมตลาดเงินคืออะไร และมันทำงานอย่างไร ก่อนที่จะไปดูกันว่าทำไมกองทุนประเภทนี้จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน

คำจำกัดความ

กองทุนรวมตลาดเงิน คือกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่รวบรวมเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนเพื่อนำไปลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีความเสี่ยงต่ำ เช่น รายการเทียบเท่าเงินสดหรือตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารเหล่านี้อาจเป็นบัตรเงินฝาก (Certificates of Deposit - CDs) ตั๋วเงินคลัง (Treasury Bills - T-Bills) สัญญาซื้อคืน (Repurchase Agreements - Repos) ตราสารพาณิชย์ (Commercial Paper) เป็นต้น กองทุนประเภทนี้เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงและเป็นที่พักเงินชั่วคราวก่อนนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

กองทุนเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และเป็นทางเลือกระยะสั้นในการทำให้เงินสดของคุณทำงานอย่างหลากหลาย แทนที่จะปล่อยให้เงินนอนเฉยอยู่ในบัญชีธนาคาร หน้าที่ของกองทุนเหล่านี้คือการรักษามูลค่าของเงินต้น สร้างรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านดอกเบี้ย และอนุญาตให้คุณสามารถเข้าถึงเงินของคุณได้ทุกเวลาที่ต้องการ

คำจำกัดความ.jpg

กองทุนรวมตลาดเงินทำงานอย่างไร

กฎระเบียบสำหรับกองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) มีความเข้มงวดมากกว่ากองทุนรวมประเภทอื่น เนื่องจากพวกมันทำหน้าที่เหมือนการลงทุนในรูปแบบเงินสดจึงถูกควบคุมเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงมีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ กฎระเบียบและคุณภาพสินเชื่อยังช่วยให้แน่ใจว่าเงินสดของคุณได้รับการรักษาไว้และไม่สูญเสียมูลค่า

กองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) ลงทุนจำนวนมากในตราสารระยะสั้นต่าง ๆ รายการเทียบเท่าเงินสด (Cash equivalents) มีสภาพคล่องสูงมากและสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ทุกเมื่อ โดยทั่วไปจะมีอายุครบกำหนดภายใน 3 เดือนหรือน้อยกว่า ส่วนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-term debt securities) จะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและใช้เวลานานกว่าจะครบกำหนด ซึ่งมักจะไม่เกิน 1 ปี ตราสารเหล่านี้ใช้สำหรับการกู้ยืมระยะสั้นและถือว่ามีคุณภาพสูงเพราะมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก จึงช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนและรักษาเงินลงทุนของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

กฎระเบียบยังกำหนดให้กองทุนเหล่านี้ต้องถือครองสินทรัพย์ในรูปสภาพคล่องที่สามารถไถ่ถอนได้ทุกวัน เช่น เงินสด ในสัดส่วนหนึ่ง และต้องลงทุนในตราสารทางการเงินที่สามารถแปลงเป็นสภาพคล่องรายสัปดาห์ในสัดส่วนหนึ่งด้วย กองทุนเหล่านี้ต้องรักษาระดับสภาพคล่องไว้ในระดับหนึ่งเพื่อให้มีเงินสดคืนให้กับนักลงทุนที่ต้องการถอนเงินออกจากกองทุนไปใช้ที่อื่น โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถถอนเงินได้ในวันเดียวกันหรือวันถัดไป ขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุน

ต่างจากกองทุนรวมประเภทอื่น กองทุนตลาดเงิน (MMFs) ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบบัญชีเงินสด โดยรักษามูลค่าต่อหน่วยหรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ให้คงที่ที่ 1 ดอลลาร์

กองทุนใช้เทคนิคพิเศษทางบัญชีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นี้ ดังนั้นรายได้ที่นักลงทุนได้รับจากกองทุนจะมาในรูปแบบของเงินปันผล

ทุกวัน กองทุนจะเพิ่มดอกเบี้ยที่คุณได้รับเข้าไปในยอดคงเหลือของคุณ เมื่อสิ้นสุดแต่ละเดือน คุณสามารถเลือกลงทุนเงินปันผลดอกเบี้ยนั้นโดยนำไปซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม หรือเลือกรับเป็นเงินสดโดยตรงก็ได้ ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารกองทุนได้ถูกนำมาคำนวณไว้แล้วเมื่อคุณได้รับผลตอบแทนหรือซื้อหรือขายหน่วยลงทุน ดังนั้นสิ่งที่คุณเห็นก็คือสิ่งที่คุณได้รับจริง

ประเภทของกองทุนรวมตลาดเงิน

กองทุนรวมตลาดเงินถูกควบคุมด้วยกฎระเบียบที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่ตั้ง แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่

  • กองทุนรวมตลาดเงินตราสารสารหนี้รัฐบาล (Government MMFs) ตามชื่อเลยบอกชัดมาก ลงทุนในหนี้ของรัฐบาลและสัญญาซื้อคืนที่ได้รับการสนับสนุนโดยหลักทรัพย์ของรัฐบาล นอกเหนือจากการถือเงินสด กองทุนเหล่านี้มีความเสี่ยงต่ำมาก และเหมาะสำหรับนักลงทุนสายอนุรักษ์นิยมที่กำลังมองหาเสถียรภาพและสภาพคล่อง

  • กองทุนรวมตลาดเงินตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-term credit MMFs) หรือ prime MMFs จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่ของรัฐบาล เช่น หนี้ธนาคารและหนี้บริษัท นอกจากหลักทรัพย์ของรัฐบาลและการถือเงินสด กองทุนเหล่านี้มีความเสี่ยงเล็กน้อยแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

  • กองทุนรวมตลาดเงินตราสารหนี้ภาครัฐส่วนท้องถิ่น (Municipal MMFs) จะลงทุนในพันธบัตรเทศบาลที่ออกโดยภาครัฐและรัฐบาลท้องถิ่น กองทุนเหล่านี้มักให้ประโยชน์ทางภาษีแก่นักลงทุนเพราะรายได้จากกองทุนมักได้รับการยกเว้นภาษีรัฐบาลกลางและภาษีรัฐ

  • กองทุนรวมตลาดเงินมาตรฐาน (Standard MMFs) จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยให้นักลงทุนถือหน่วยลงทุนนานกว่ากองทุนอื่น ๆ (โดยทั่วไปมีระยะเวลาถือขั้นต่ำสามเดือน) มีสภาพคล่องน้อยกว่า และมีคุณภาพเครดิตต่ำกว่า ซึ่งหมายความว่ากองทุนเหล่านี้มีความเสี่ยงมากกว่าประเภทอื่น ๆ

ข้อดีของกองทุนรวมตลาดเงิน

บัญชีธนาคาร เงินฝากประจำ (FD) และตั๋วเงินฝาก (CD) ก็ช่วยให้คุณสร้างดอกเบี้ยจากเงินสดได้เช่นกัน แถมยังมีการรับประกันอีกด้วย แล้วทำไมไม่ลงทุนในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นแทนล่ะ? นี่คือเหตุผลบางประการที่คุณควรลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน:

การกระจายความเสี่ยง

กองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) ลงทุนในตราสารทางการเงินหลายประเภท รวมถึงเงินฝากประจำ (FDs) และตั๋วเงินฝาก (CDs) ดังนั้นคุณจึงได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าการฝากเงินแบบทั่วไป กองทุนประเภทนี้ช่วยให้คุณกระจายการลงทุนได้กว้างขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณจะไม่มีทางได้ถ้านำเงินไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ปกติ นอกจากนี้ คุณยังหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนหนักหรือรวมเงินไว้กับธนาคารเดียวมากเกินไป เพราะกองทุนจะกระจายการลงทุนไปยังหลายสถาบันการเงิน

ความเสี่ยงต่ำ

กองทุนรวมตลาดเงินมีความปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนั้นมาก โดยถูกออกแบบและควบคุมให้มีความเสี่ยงต่ำแบบนี้เสมอ

ความสะดวกในการดำเนินการ

การลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินนั้นง่ายมาก คุณเพียงแค่ซื้อหรือขายหน่วยลงทุนของกองทุน ส่วนที่เหลือจะถูกจัดการแทนคุณทั้งหมด คุณสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการถือหน่วยลงทุนเพียงหน่วยเดียว ซึ่งหากทำเองจะยุ่งยากและเสียเวลามากกว่า เพราะคุณต้องคอยนำเงินไปลงทุนใหม่ทุกครั้งเมื่อสินทรัพย์ครบกำหนดระยะสั้น แต่กับกองทุนรวมตลาดเงิน เงินของคุณจะยังคงถูกนำไปลงทุนต่อเนื่องตราบใดที่คุณยังถือหน่วยลงทุนอยู่

ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

ด้วยการรวมเงินจากนักลงทุนหลายราย คุณสามารถเข้าถึงหลักทรัพย์หลายประเภทด้วยเงินลงทุนที่น้อยลง ผลตอบแทนที่ได้จะสมส่วนกับจำนวนเงินที่คุณลงทุน เนื่องจากกองทุนมีการจัดการอย่างมืออาชีพและเน้นลงทุนในสินทรัพย์ระยะสั้น จึงมักสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากหรือบัญชีออมทรัพย์ปกติ การนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินจึงเหมือนกับการเสริมพลังให้เงินสดของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สภาพคล่อง

แตกต่างจากบัญชีเงินฝากธนาคารทั่วไปที่ให้ดอกเบี้ย กองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) ไม่มีช่วงเวลาผูกพันใด ๆ นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องเสียค่าปรับหากต้องการถอนเงินก่อนวันครบกำหนด คุณเพียงแค่แลกหน่วยลงทุนคืนเพื่อรับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่สะสมมาในช่วงเวลานั้น ความสามารถในการแปลงเป็นเงินสดได้ทันทีนี้ทำให้ MMFs น่าสนใจยิ่งขึ้นและมอบอิสระที่มากขึ้นให้กับนักลงทุน

ข้อจำกัดของกองทุนรวมตลาดเงิน

แม้กองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) จะมีข้อดี แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน

ไม่มีการรับประกันผลตอบแทนหรือการคุ้มครอง

กองทุนรวมตลาดเงินไม่อาจรับประกันได้ว่าคุณจะได้รับดอกเบี้ย แถมคุณยังมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนหากกองทุนล้มละลาย เงินของคุณจะไม่ได้รับการปกป้องเหมือนในบัญชีเงินฝากหรือบัญชีออมทรัพย์ที่ได้รับความคุ้มครองจาก FDIC ย้ำอีกครั้ง ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงตาม

ผลตอบแทนต่ำ

แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการถือเงินสดหรือฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่ผลตอบแทนนี้ยังถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับกองทุนรวมหรือการลงทุนประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากกองทุนก็จะลดลงตามไปด้วย โดยบางกองทุนอาจมีกลยุทธ์จัดการความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยได้ดีกว่ากองทุนอื่น ๆ

อัตราดอกเบี้ยต่ำ

หากอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ การถือเงินไว้ในกองทุนก็เท่ากับคุณกำลังสูญเสียมูลค่าเงิน เพราะดอกเบี้ยที่ได้รับชดเชยเงินเฟ้อไม่ทัน ทำให้อำนาจซื้อของคุณลดลง แม้จะถือว่าได้ดอกเบี้ยก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย แต่คุณก็อาจนำเงินไปลงทุนในช่องทางอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปกองทุนมักให้ผลตอบแทนเอาชนะเงินเฟ้อได้ และแม้ในภาวะที่เงินเฟ้อพุ่งสูง อัตราดอกเบี้ยก็จะถูกปรับตามก่อนที่เงินเฟ้อจะค่อย ๆ ลดลงในที่สุด ดังนั้นสถานการณ์นี้จึงมักไม่ยืดเยื้อนานนัก

ความเสี่ยงด้านเครดิต

หากธนาคารที่กู้เงินจากกองทุนเกิดล้มละลายและไม่สามารถชำระเงินคืน กองทุนและนักลงทุนอาจสูญเสียเงินได้ อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมตลาดเงินมักลงทุนเฉพาะในธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงที่สุด ดังนั้นแม้จะเป็นความเสี่ยงที่มีอยู่ แต่โอกาสเกิดกรณีสูญเงินจากเหตุการณ์แบบนี้มีน้อยมาก

ภาวะตลาดตึงตัว

ในกรณีที่พบได้ยากมาก เมื่อตลาดการเงินตกอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างรุนแรง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนอาจร่วงลงไปต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ถึงแม้กองทุนรวมตลาดเงินจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ ในช่วงวิกฤตการเงิน กองทุนอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อจำกัดการไถ่ถอนหน่วยลงทุน และในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด กองทุนอาจระงับการไถ่ถอนทั้งหมดชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย มาตรการนี้เรียกว่า " เพดานการขายคืนหน่วยลงทุน (Redemption Gate)"

สรุป

ควรศึกษาข้อมูลและอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนที่คุณต้องการลงทุนเสมอ เพราะบางกองทุนอาจมีความพร้อมที่ดีกว่าในการรับมือกับความผันผวนของตลาด เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และความไม่แน่นอนทั่วไป กองทุนรวมตลาดเงิน (MMFs) จะมีเอกสารชี้ชวนบนเว็บไซต์ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ สินทรัพย์ ผลการดำเนินงาน ค่าธรรมเนียม และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน นอกจากนี้ คุณยังสามารถค้นหาข้อมูลนี้ได้บนเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ: