01 ส.ค. 2025

กลยุทธ์

ประเภทของการเทรด: อธิบายกลยุทธ์และแนวทาง

ประเภทของการเทรด: อธิบายกลยุทธ์และแนวทาง

การเทรด หมายถึง การซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อหวังผลกำไร สินทรัพย์เหล่านี้อาจเป็นหุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เป้าหมายมีเพียงอย่างเดียว คือ “ซื้อถูก ขายแพง” แต่แนวทางในการทำก็มีหลากหลาย

ประเภทของการเทรดนั้นมีหลายประเภท แต่ละแบบมีเหตุผล ระยะเวลา และระดับความเสี่ยงที่ต่างกัน บางวิธีเน้นการเคลื่อนไหวในระยะสั้น ขณะที่บางวิธีก็มองภาพรวมระยะยาว บางคนใช้กราฟราคาเป็นหลัก ขณะที่บางคนอิงข้อมูลเศรษฐกิจ

การเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ต้องเริ่มจากการเข้าใจเป้าหมายของคุณเอง หลายคนต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ในขณะที่บางคนให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่ช้าแต่สม่ำเสมอในระยะยาว ความเสี่ยงที่รับได้ ระยะเวลาที่คุณใช้ และสไตล์ส่วนตัว ล้วนเป็นปัจจัยในการเลือกแนวทางที่เหมาะกับคุณที่สุด

เทรดเดอร์มักจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนไป หรือเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น การรู้ว่าแต่ละตัวเลือกมีอะไรบ้าง จะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และตัดสินใจได้ดีขึ้น

ประเภทของการเทรด: สรุปแบบย่อ

ประเภทการเทรดความหมายกรอบเวลากลยุทธ์หลักเหมาะสำหรับ
การเทรดแบบรายวันการซื้อและขายสินทรัพย์ภายในวันเดียว โดยไม่ถือข้ามคืนหลายนาทีถึงหลายชั่วโมง (ระหว่างวัน)เครื่องมือทางเทคนิค กราฟที่รวดเร็ว สัญญาณระยะสั้นเทรดเดอร์ที่มีเวลา และโฟกัสกับตลาดตลอดวัน
การเทรดแบบถือสถานะกลยุทธ์ระยะยาวที่อิงตามแนวโน้มตลาดที่สำคัญหลายเดือนถึงหลายปีซื้อแล้วถือยาว, แนวโน้มมหภาค, สัญญาณจากปัจจัยพื้นฐานเทรดเดอร์ที่มีความอดทน ใจเย็น ไม่ชอบเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
การเทรดแบบสกัลปิ้งทำการเทรดเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายสิบรายการ เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยหลายวินาทีถึงหลายนาทีเข้าซื้อเร็ว, ดูการไหลของออเดอร์, สเปรดแคบเทรดเดอร์ที่รวดเร็ว และใส่ใจรายละเอียด
การเทรดแบบสวิงจับจังหวะขึ้นลงของราคาที่เกิดในช่วงหลายวันหรือหลายสัปดาห์ระยะสั้นถึงระยะกลางติดตามแนวโน้ม, แนวรับแนวต้าน, วิเคราะห์กราฟเทรดเดอร์พาร์ตไทม์ หรือคนที่มีเวลายืดหยุ่น
การเทรดแบบโมเมนตัมตามกระแสราคาแรง ๆ ไปจนกว่าจะเริ่มชะลอระยะสั้นถึงระยะกลางการพุ่งทะลุ, ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงฉับพลัน, ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเทรดเดอร์ที่ตัดสินใจลงมือรวดเร็วและชอบความผันผวน
การเทรดแบบอัลกอริทึมใช้โปรแกรมอัตโนมัติเพื่อวางคำสั่งซื้อขายตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้แล้วแต่การตั้งค่าโรบ็อต, กลยุทธ์ที่ตั้งโปรแกรมอัตโนมัติ, ระบบความเร็วสูงเทรดเดอร์ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี หรือเทรดเดอร์ระดับสถาบัน
การเทรดตามปัจจัยพื้นฐานใช้ข่าวเศรษฐกิจและข้อมูลทางการเงินในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ระยะกลางถึงระยะยาวงบการเงิน, ดอกเบี้ย, แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเทรดเดอร์ที่ติดตามเหตุการณ์และข้อมูลมหภาค
การเทรดทางเทคนิควิเคราะห์กราฟราคาและรูปแบบต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคตได้ทั้งระยะสั้น กลาง ยาวตัวบ่งชี้, เส้นแนวโน้ม, ข้อมูลราคาย้อนหลังเทรดเดอร์ที่คิดเป็นภาพ และเชื่อในสัญญาณจากตลาด

กลยุทธ์การเทรดตามกรอบเวลา

การเทรดแบบรายวัน (Day trading)

การเทรดแบบรายวันเป็นการเทรดที่มีความรวดเร็วที่สุด เทรดเดอร์จะเปิดและปิดออเดอร์ภายในวันเดียวกัน หรือบางครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่นาที โดยทั่วไปพวกเขาจะจะไม่ถือสถานะข้ามคืน เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด กลยุทธ์นี้ต้องใช้ความเร็ว ความแม่นยำ และการวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคนิคกับข่าวสารตลาดแบบทันที

การเทรดแบบรายวัน (Day trading)

การเทรดแบบถือสถานะ (Position Trading)

เมื่อพูดถึงการเทรดในระยะยาว แนวทางนี้มักเป็นสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง การเทรดแบบถือสถานะคือการจับแนวโน้มที่กินเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้แต่เป็นปี เน้นวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเทรดบ่อย และมีเวลาศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิเคราะห์ภาพรวมมากขึ้น หลายคนใช้ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานเพื่อช่วยตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรเข้า หรือออกจากตลาด

การเทรดแบบสกัลปิ้ง (Scalping Trading)

การเทรดแบบสกัลปิ้ง คือกลยุทธ์ที่เน้นการเทรดระยะสั้นมาก ๆ โดยจับความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของราคาจากการเทรดหลายสิบครั้งในแต่ละวัน วิธีนี้เข้มข้นและต้องการความทุ่มเท เหมาะกับคนที่มีเครื่องมือและแนวคิดที่พร้อมจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์สายสกัลปิ้งมักปิดสถานะภายในไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที เป้าหมายคือสะสมกำไรเล็ก ๆ ให้กลายเป็นกำไรก้อนใหญ่ การเทรดประเภทนี้ต้องใช้สมาธิสูงและลงมืออย่างแม่นยำมากกว่าวิธีอื่น

การเทรดแบบสวิง (Swing Trading)

แตกต่างจากการเทรดรายวันหรือการเทรดแบบสกัลปิ้ง การเทรดแบบสวิงให้พื้นที่ในการปรับตัวและตัดสินใจมากกว่าสำหรับเทรดเดอร์ เน้นการเคลื่อนไหวของราคาช่วงสั้นถึงปานกลาง ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ วิธีนี้เป็นการหลอมรวมเครื่องมือทางเทคนิคและข่าวการตลาด ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องเฝ้าดูหน้าจอตลอดทั้งวัน สำหรับหลาย ๆ คนมันมีความยืดหยุ่นมากที่สุดในบรรดากลยุทธ์การเทรดทุกประเภท

การเทรดแบบสวิง (Swing Trading)

ประเภทการเทรดตามกลยุทธ์

การเทรดแบบโมเมนตัม (Momentum Trading)

การเทรดแบบโมเมนตัมเหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบความเร็วและการตัดสินใจรวดเร็ว กลยุทธ์นี้เน้นติดตามแนวโน้มราคาที่แข็งแกร่ง และมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรอย่างรวดเร็วขณะที่ยังมีแรงโมเมนตัมอยู่ แนวทางนี้ขึ้นอยู่กับการจับจังหวะ ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความแข็งแกร่งของราคา เพื่อจับสินทรัพย์ที่กำลังเคลื่อนไหว วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งกับตลาดที่มีความผันผวนสูง ซึ่งทิศทางราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและนำมาซึ่งผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว

การเทรดด้วยอัลกอริทึม (Algorithmic Trading)

การเทรดด้วยอัลกอริทึมจะแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ด้วยกฎอัตโนมัติ เทรดเดอร์สามารถกำหนดเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าและออกจากการเทรดโดยการเขียนสคริปต์ โดยอ้างอิงจากเวลา ราคา และปริมาณการซื้อขาย สิ่งนี้ช่วยในการขจัดอารมณ์ และให้การดำเนินการที่แม่นยำและความเร็วสูง วิธีนี้มักใช้โดยสถาบันการเงินหรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูงและเชื่อในข้อมูลมากกว่าความรู้สึก

การเทรดตามปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Trading)

สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับภาพรวมระดับโลกมากกว่ากราฟรายวัน การเทรดแบบปัจจัยพื้นฐานถือเป็นทางเลือกที่นิยมใช้ วิธีนี้จะพิจารณาปัจจัยที่ขับเคลื่อนมูลค่าที่แท้จริง เช่น รายงานผลกำไร อัตราเงินเฟ้อ และการตัดสินใจของธนาคารกลาง เทรดเดอร์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เปรียบเทียบกับราคาตลาด เพื่อดูว่าสินทรัพย์นั้นมีราคาสูงหรือต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับประเภทการเทรดอื่น ๆ วิธีนี้ถือว่าใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมากที่สุด

การเทรดทางเทคนิค (Technical Trading)

กราฟราคามีเรื่องราวของตัวเองที่จะบอกเล่า และการเทรดทางเทคนิคคือการอ่านเรื่องราวนั้นอย่างแม่นยำ วิธีการเทรดนี้เน้นดูรูปแบบกราฟ ตัวบ่งชี้ และระดับราคาต่าง ๆ เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดในครั้งถัดไป แทนที่จะเน้นข่าวสารหรือข้อมูลทางการเงิน วิธีนี้จะวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของราคา วิธีนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์ระยะสั้นที่ชอบความชัดเจนในภาพ และต้องการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

การเลือกประเภทการเทรดที่เหมาะสม

พิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้เมื่อเลือกสไตล์การเทรดที่เหมาะกับคุณที่สุด

  1. เวลา ในบางวิธี คุณต้องติดตามข้อมูลตลอดทั้งวัน ขณะที่บางวิธีมีลักษณะค่อนข้างนิ่งและไม่ต้องเฝ้าจอมาก หากคุณมีเวลาว่างวันละหลายชั่วโมง อาจชอบสไตล์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น การเทรดแบบรายวัน หรือ การเทรดแบบสกัลปิ้ง แต่ถ้าคุณมีเวลาจำกัด การเทรดแบบสวิง หรือ การเทรดแบบถือสถานะอาจเหมาะกว่า

  2. ความเสี่ยง แต่ละกลยุทธ์มีระดับความเสี่ยงของตัวเอง กลยุทธ์ระยะยาวมักดูเหมือนปลอดภัยกว่าแบบระยะสั้น แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด ก่อนที่จะเลือกวิธีการ ควรกำหนดว่าคุณยอมรับการขาดทุนได้มากแค่ไหนโดยไม่เครียด

  3. เครื่องมือ การเทรดด้วยตัวเองต้องการสมาธิและการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ขณะที่การเทรดแบบอัลกอริทึมหรืออัตโนมัติมักเน้นที่เทคโนโลยีและการเตรียมการล่วงหน้า ความถนัดในการใช้เครื่องมือวิเคราะห์และซอฟต์แวร์จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมได้ดีขึ้น

เทรดเดอร์บางคนอาจเลือกใช้ทั้งสไตล์ตามกรอบเวลาและสไตล์ตามกลยุทธ์ บางคนผสมผสานทั้งสองวิธีเข้าด้วยกัน แต่การเข้าใจอย่างชัดเจนจะช่วยลดความสับสนและทำให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้น

ทำไมการบริหารความเสี่ยงจึงมีความสำคัญสำหรับการเทรดในแต่ละรูปแบบ?

สไตล์การเทรดแต่ละแบบมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เพื่อให้การเทรดปลอดภัยขึ้น คุณจึงต้องมีแผนที่ชัดเจนในการควบคุมความเสี่ยง หนึ่งในเป้าหมายหลักของการบริหารความเสี่ยงคือการรักษาเงินทุนและลดการขาดทุน แม้ในช่วงที่ขาดทุน เทรดเดอร์ที่กำหนดขอบเขตไว้อย่างแม่นยำก็ยังสามารถยืนหยัดและฟื้นตัวได้

นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดทางอารมณ์ได้ด้วย เมื่อคุณควบคุมการขาดทุนตามกฎที่ตั้งไว้ จะทำให้โอกาสเกิดความตื่นตระหนกหรือตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่นลดลง ส่งผลให้คุณมีท่าทีที่สมดุลและสงบมากขึ้น ซึ่งสำคัญต่อความสม่ำเสมอและผลกำไรในระยะยาว

ท้ายที่สุด การควบคุมความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมออาจเป็นจุดต่างสำคัญระหว่างเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จกับเทรดเดอร์ที่หมดไฟไปเสียก่อน การเทรดอย่างชาญฉลาดอาจยังมีพลาดได้ แต่ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณจะมีโอกาสอยู่ในตลาดได้นานขึ้น

ไม่มีวิธีการเทรดแบบไหนที่เหมาะกับทุกคน เป้าหมายคือการเลือกประเภทการเทรดให้สอดคล้องกับตารางเวลา ความคิด และเป้าหมายของคุณ เมื่อการเลือกนั้นเหมาะสม โอกาสที่จะได้ผลลัพธ์ที่มั่นคงจะเพิ่มขึ้น และข้อผิดพลาดจะลดลง

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก