06 ส.ค. 2025

กลยุทธ์

อุปสงค์และอุปทานและวิธีการนำไปใช้ในตลาดฟอเร็กซ์

อุปสงค์และอุปทานและวิธีการนำไปใช้ในตลาดฟอเร็กซ์

ราคาเคลื่อนที่เพราะผู้ซื้อและผู้ขายกำลังต่อสู้เพื่อช่วงชิงการควบคุม เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะด้วยมาร์จิ้นกว้าง ๆ ราคาจะทิ้งรอยเท้าที่ชัดเจนไว้บนกราฟ รอยเท้านั้นคือโซนอุปทาน (Supply) หรือโซนอุปสงค์ (Demand) โซนอุปสงค์ (Demand Zone) เกิดขึ้นเมื่อการตกของราคาหยุดลง แล้วดีดขึ้นอย่างรุนแรงในครั้งเดียว ซึ่งมักเป็นจุดที่ธนาคารขนาดใหญ่เข้ามาซื้อ โดยจะดูดซับคำสั่งขายทั้งหมดที่ขวางหน้า

โซนอุปทาน (Supply Zone) เกิดขึ้นเมื่อราคาที่กำลังพุ่งสูงขึ้นหยุดชะงักและดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ผู้ขายรายใหญ่เข้ามาแทรกแซง เพราะเห็นว่าราคาสูงเกินไป และเริ่มเทขายสถานะของพวกเขาออกมา โซนเหล่านี้มีความสำคัญ เพราะมันแสดงจุดที่เงินจำนวนมหาศาลเคยขับเคลื่อนตลาดมาก่อน เมื่อราคากลับมาที่โซนนี้อีก เทรดเดอร์จะจับตาดูว่าฝั่งผู้ซื้อหรือผู้ขายจะเข้ามาปกป้องพื้นที่นี้อีกครั้งหรือไม่

อุปสงค์และอุปทานส่งผลต่อตลาดฟอเร็กซ์อย่างไร

โซนอุปสงค์และอุปทานทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กดูดราคา เพราะเคยเป็นจุดที่คำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่เคยรออยู่ เมื่อราคากลับมาที่โซนเหล่านี้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะจับตาดู 2 สถานการณ์หลัก

การเด้งกลับ (Bounce) หมายถึงโซนยังมีประสิทธิภาพ ราคาสะท้อนและเคลื่อนตัวออกไป ส่วนการทะลุผ่าน (Breakout) หมายถึงโซนล้มเหลว ราคาผ่านขึ้น/ลงได้อย่างชัดเจน

การกลับไปทดสอบครั้งแรกมักให้การเคลื่อนไหวที่รุนแรงที่สุด เนื่องจากคำสั่งซื้อขายที่รอกลับไปทดสอบอยู่ยังใหม่สด และเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังไม่ทันสังเกตเห็นระดับราคานี้ เมื่อราคากลับมาแตะโซนอีกครั้ง คำสั่งจะถูกเติมเข้ามาแต่ปริมาณผู้ซื้อและผู้ขายจะลดลง พอถึงครั้งที่ 3-4 โซนก็จะเริ่มหมดพลัง ราคาอาจแค่หยุดพักชั่วครู่

ในไม่ช้าราคาอาจเด้งขึ้นหลอก ๆ ชั่วครู่ ก่อนจะทะลุโซนไปอย่างรวดเร็ว การกระแทกนี้จะกระตุ้นคำสั่ง stop-loss ของเทรดเดอร์ที่เข้าเทรดช้าไป การ "กวาดสต็อป" นี้ช่วยกำจัดสถานะที่อ่อนแอออกจากตลาด และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหญ่เข้าซื้อขายในราคาที่ดีกว่า

เทรดเดอร์ที่ฉลาดจะไม่รีบเข้าเทรดทันทีที่ราคาแตะโซน พวกเขาจะรอหลักฐานชัดเจน เช่น แท่งเทียนปฏิเสธราคาที่แข็งแกร่ง หรือการเปลี่ยนโมเมนตัมระยะสั้น ขั้นตอนเพิ่มเติมนี้จะช่วยกรองสัญญาณเทรดที่อ่อนแอและป้องกันไม่ให้พวกเขาเทรดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าทุกครั้งที่ราคาแตะโซน

วิธีการระบุและวาดโซนอุปสงค์และอุปทาน

โซนอุปสงค์และอุปทานจะบอกคุณว่าจุดไหนที่ผู้ซื้อและผู้ขายที่แข็งแกร่งที่สุดเคยเข้าคุมตลาด มันหาไม่ยากถ้าคุณทำตามขั้นตอนชัดเจนและรักษากราฟให้สะอาด

ขั้นตอนการหาและวาดโซนที่แข็งแรง:

  1. มองหาแท่งที่พุ่งแรง ๆ ให้คุณมองหาแท่งเทียนขนาดใหญ่หลายแท่งที่พุ่งขึ้นหรือลงแบบตรง ๆ โดยมีการพักตัวเพียงเล็กน้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะอย่างรวดเร็ว

  2. ย้อนดูฐานเริ่มต้นของราคา สแกนกราฟจากขวาไปซ้ายจนเจอช่วงพักตัวสั้น ๆ ก่อนการพุ่งทะลุ มักเป็นช่วงเทียน 2-4 แท่งที่มีเนื้อเทียนขนาดเล็ก

  3. วาดโซนอุปสงค์ ถ้าเป็นขาขึ้น ให้ลากจากจุดต่ำสุดของไส้เทียนในช่วงพัก ไปถึงจุดปิดสูงสุดของช่วงพักนั้น กล่องนี้คือจุดที่ผู้ซื้อเคยเข้ามา

  4. วาดโซนอุปทาน ถ้าเป็นขาลง ให้ลากจากจุดสูงสุดของไส้เทียนไปถึงจุดปิดต่ำสุดของช่วงพัก นี่คือจุดที่ผู้ขายเคยเข้ามาคุม

  5. ตรวจสอบคุณภาพ โซนดีต้องมาจากฐานแคบ ๆ และพุ่งออกแรง ๆ ไม่มีแท่งเทียนซ้อนกันหรือสัญญาณรบกวน การมีปริมาณการซื้อขายพุ่งหรือข่าวใหญ่จะทำให้โซนแข็งแรงขึ้น

  6. มองหาโซนใหม่ โซนที่ดีที่สุดคือจุดที่ราคายังไม่เคยย้อนกลับมาทดสอบอีกตั้งแต่ทะลุออกไป แต่ละโซนที่ยังไม่ถูกแตะจะมีคำสั่งซื้อขายที่รอให้กลับไปทดสอบอยู่ โซนที่เกิดในช่วงตลาดเงียบ เช่น ช่วงเช้า ๆ ของตลาดเอเชียมักล้มเหลวเพราะขาดความไม่สมดุลที่แท้จริง

ขั้นตอนการหาและวาดโซนที่แข็งแรง:

วิธีตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโซนอุปทานและอุปสงค์

ไม่ใช่ทุกช่วงพักฐานบนกราฟราคาที่ควรเข้าเทรด การหยุดพักเล็ก ๆ จำนวนมากเป็นเพียงการที่ตลาดกำลังหยุดพักและไม่ให้โอกาสที่ดีจริง ๆ โซนที่แข็งแรงมักจะเกิดขึ้นหลังข่าวใหญ่ เช่น รายงาน CPI ข้อมูล NFP หรือคำแถลงการณ์ของ FOMC เหตุการณ์เหล่านี้กระตุกตลาดและสร้างความได้เปรียบชัดเจนระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย

โซนที่ดีที่สุดมักเริ่มต้นในตลาดที่มีสภาพคล่องบางเบา หรือหลังจากที่ราคาเคยพุ่งทะยานเหนือจุดสูงสุดล่าสุดหรือต่ำกว่าจุดต่ำสุดล่าสุดเพียงชั่วครู การเคลื่อนไหวรวดเร็วนั้นมักดักจับเทรดเดอร์ที่ตามกระแส และราคามักจะย้อนกลับมาทดสอบพื้นที่นั้นอีกครั้งในภายหลัง

ถามสามคำถามง่าย ๆ ก่อนที่คุณจะเชื่อใจโซนนั้น:

  • มันทำลายโครงสร้างตลาดหรือไม่?

  • มันได้สร้างความกลัวหรือความตื่นเต้นบนกราฟหรือไม่?

  • ปริมาณการซื้อขายพุ่งเมื่อมันก่อตัวหรือไม่?

หากคำตอบของคำถามเหล่านี้คือไม่ โซนนั้นอาจเป็นแค่สัญญาณหลอก จงจดจ่อกับโซนที่เปลี่ยนแนวโน้มในกราฟบนกรอบเวลาสูง ๆ และอย่าสนใจการหยุดพักเล็ก ๆ กลางทาง

รูปแบบอุปสงค์และอุปทาน

มีอยู่ 4 รูปแบบพื้นฐานที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดที่ราคาอาจกลับตัวหรือเคลื่อนที่ต่อ แต่ละรูปแบบมีชื่อเรียบง่ายที่อธิบายลักษณะการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนบนกราฟ

รูปแบบอุปสงค์และอุปทาน

  1. รูปแบบ Drop-Base-Rally (DBR) ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว หยุดพักในกรอบเล็ก ๆ แล้วพุ่งขึ้นแรง ๆ ผู้ขายดูอ่อนล้า ส่วนผู้ซื้อเข้ามาด้วยสถานะขนาดใหญ่ เทรดเดอร์หลายคนจะเปิดสถานะ Long เมื่อราคาย้อนกลับมาทดสอบฐานเป็นครั้งแรกอย่างชัดเจน

  2. รูปแบบ Rally-Base-Drop (RBD) ราคาพุ่งขึ้นเร็ว หยุดนิ่งในฐาน แล้วร่วงลงแรง ๆ ผู้ซื้อหมดแรง ผู้ขายเริ่มเข้าครอบงำ เทรดเดอร์ที่เข้าซื้อช้าติดกับ มักเป็นโอกาสดีสำหรับการเปิดสถานะ short เมื่อราคาดึงกลับ

    Rally-Base-Drop (RBD)

  3. รูปแบบ Rally-Base-Rally (RBR) ราคาพุ่งขึ้น หยุดพักฐาน แล้วเร่งขึ้นต่อ แสดงถึงความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง เทรดเดอร์มักมองหาจุดเข้าซื้อเมื่อราคากลับมาทดสอบที่ฐานอีกครั้ง ในขณะที่แนวโน้มใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น

  4. รูปแบบ Drop-Base-Drop (DBD) ราคาร่วง หยุดพักฐาน แล้วร่วงต่อ แรงขายที่ยังคงแข็งแกร่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายขายยังคงครองตลาด การเปิดสถานะ Short ตามการเคลื่อนไหวของตลาดเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะเมื่อโซนนั้นยังสะอาด และไม่เคยถูกทดสอบมาก่อน

กรอบเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรดตามอุปสงค์และอุปทาน

การเทรดตามอุปสงค์และอุปทานจะง่ายที่สุดเมื่อคุณอ่านกราฟดุจอ่านแผนที่ โดยเริ่มจากมุมมองกว้างเพื่อดูว่าสถานะขนาดใหญ่อยู่ที่ใด จากนั้นซูมเข้าเพื่อวางแผนจุดเข้าแบบเจาะจง แต่ละกรอบเวลามีบทบาทชัดเจนในกระบวนการแบบลงรายละเอียดจากภาพใหญ่สู่ภาพย่อยนี้

1. กำหนดโครงสร้าง — กรอบเวลา 4H/1H

ใช้กราฟ 4 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงเพื่อหาโซนที่แข็งแกร่ง ระดับเหล่านี้ก่อตัวหลังจากการสร้างหลายแท่งเทียน จึงมีความสำคัญมากกว่าการแกว่งตัวเร็วในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า ให้ทำเครื่องหมายทุกโซนที่ชัดเจนก่อนจะไปขั้นตอนต่อไป

2. ยืนยันปฏิกิริยา — กรอบเวลา 1H/15M

ลดลงมาดูที่กรอบเวลา 1 ชั่วโมงหรือ 15 นาที เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของราคา มองหาไส้เทียนยาว ๆ การดีดตัวกลับรุนแรง การทะลุหลอก หรือการดูดซับที่ชัดเจน สัญญาณเหล่านี้บอกคุณว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายยังคงปกป้องโซนอยู่

3. กำหนดจังหวะเข้า — กรอบเวลา 15M/5M

สุดท้าย เมื่อพร้อมดำเนินการ ให้เปลี่ยนไปดูกรอบเวลา 15 นาทีหรือ 5 นาที รอให้เกิดแท่งเทียนกลับตัว การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขายอย่างฉับพลัน หรือสัญญาณอื่น ๆ ที่ชัดเจน ตั้งจุดตัด stop loss ให้แคบ และกำหนดเป้าหมายให้สมจริง

ตารางด้านล่างจะสรุปขั้นตอนการทำงานนี้ เพื่อให้คุณเห็นบทบาทหลักของแต่ละกรอบเวลาและสัญญาณที่ต้องสังเกต

กรอบเวลาบทบาทหลักสัญญาณที่ต้องดู
4H/1Hกำหนดโครงสร้างโซนอุปทานและอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
1H/15mยืนยันปฏิกิริยาไส้เทียน การปฏิเส, การหลอกลวง การดูดซับ
15m/5mกำหนดจังหวะเข้าแท่งเทียนกลับตัว การเปลี่ยนแปลงปริมาณการซื้อขาย การตั้งค่า Stop Loss ที่แม่นยำ

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้โซนอุปทานและอุปสงค์

การเทรดด้วยโซนอุปทานและอุปสงค์จะเน้นไปที่ระดับที่ชัดเจนซึ่งผู้ซื้อหรือผู้ขายแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริง กุญแจสำคัญคือการสังเกตวิธีที่ราคาออกจากโซนนั้น การออกจากโซนอย่างแข็งแกร่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อาจจะดำเนินต่อไป ในขณะที่การออกจากโซนอย่างอ่อนแออาจส่งสัญญาณการกลับตัว เมื่อคุณรู้ว่าฝ่ายใดมีอำนาจเหนือกว่า คุณก็สามารถวางแผนเข้าสู่ตลาดเมื่อราคากลับมาทดสอบโซนนั้นอีกครั้ง

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้โซนอุปทานและอุปสงค์

ตัวอย่าง: รูปแบบ Drop-Base-Rally (DBR)

ราคาตกลงอย่างรวดเร็ว หยุดพักในฐานที่แคบ จากนั้นก็พุ่งขึ้นแรง การหยุดพักนั้นจะกลายเป็นโซนอุปสงค์ เพราะผู้ซื้อเข้ามาดูดซับทุกคำเสนอขายในจุดนั้น หลังจากที่ราคาทะลุออกไปแล้ว ราคามักจะย้อนกลับมาด้วยไส้เทียนแบบรวดเร็ว ทำให้คุณมีโอกาสตั้งคำสั่ง buy limit วางคำสั่งสต็อปของคุณไว้ต่ำกว่าไส้ที่ต่ำที่สุดเพื่อป้องกันการกวาดลึกลงไปอีก

สำหรับเป้าหมาย ให้ใช้เครื่องมือฟีโบนัชชีบนช่วงการเคลื่อนไหวหลัก โดยเล็งเป้าหมายแรกที่ระดับ 1.272 หากโมเมนตัมยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ให้ขยายเป้าหมายไปที่ระดับ 1.618 การตั้งค่านี้ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน หรือหลังเหตุการณ์ข่าวสำคัญ เมื่อแรงขับเคลื่อนใหม่สามารถผลักดันราคาไปในทิศทางที่คุณต้องการ

ความเสี่ยง ข้อจำกัด และความเข้าใจผิด

โซนอุปสงค์และอุปทานให้แผนที่ที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่การรับประกัน ราคาอาจเคารพโซนหนึ่งครั้ง แต่ไม่สนใจในครั้งต่อไป โดยเฉพาะหลังจากที่การกลับไปทดสอบหลายครั้งได้กลืนกินสถานะที่ค้างอยู่ไปหมดแล้ว

เทรดเดอร์หลายคนตกอยู่ในกับดักเดิม ๆ พวกเขาเทรดทุกโซนทันทีที่ราคาสัมผัส แม้ในช่วงเวลาตลาดเอเชียที่เงียบสงบและมีปริมาณการซื้อขายต่ำ บางคนก็ซื้อที่โซนอุปสงค์ในแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง หรือคิดไปเองว่าโซนนั้นเป็นเส้นที่แน่นอนแทนที่จะเป็นพื้นที่กว้าง ๆ

โซนเพียงบ่งชี้ว่าอาจมีสถานะขนาดใหญ่รออยู่ การที่ราคาจะทรงตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับกระแสคำสั่งซื้อใหม่ ข่าวสารในตลาด และแนวโน้มภาพรวม โดยโซนนั้นเป็นบริเวณที่ราคาอาจเกิดปฏิกิริยา เนื่องจากมันแทบไม่เคยหยุดที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างแม่นยำ

ควบคุมความเสี่ยงด้วยการเทรดขนาดล็อตเล็ก ๆ และใช้ stop-loss แคบ ๆ เข้าเทรดเฉพาะเมื่อเห็นสัญญาณที่ชัดเจน เช่น กรณีแท่งเทียนปฏิเสธราคาที่แข็งแกร่ง หรือปริมาณการซื้อขายพุ่งกะทันหัน จงรักษาความอดทนและสังเกตภาพรวมของตลาด สิ่งนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเทรดด้วยหลักอุปสงค์-อุปทาน

สรุปความคิดสุดท้าย

การเทรดด้วยหลักอุปสงค์และอุปทานไม่ใช่การเดาจุดสูงสุดหรือต่ำสุด แต่เป็นการระบุตำแหน่งที่คำสั่งซื้อขนาดใหญ่น่าจะรออยู่ และปล่อยให้ราคาแสดงความตั้งใจของมัน จุดได้เปรียบอยู่ที่โครงสร้างที่ชัดเจน การสังเกตการณ์อย่างอดทน และจังหวะเวลาที่แม่นยำ วาดโซนให้ชัดเจน รอการตอบสนองที่แข็งแกร่ง และลงมือทำเฉพาะเมื่อตลาดยืนยันแผนของคุณ

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก