1. FBS >
  2. บล็อก FBS >
  3. แนวโน้มตลาดคืออะไร?
อัปเดทแล้ว • 2023-07-20

แนวโน้มตลาดคืออะไร?

cover.png

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าแนวโน้มของตลาดคืออะไรและจะสังเกตเห็นมันได้อย่างไร? ถ้าอย่างนั้น บทความนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ

แนวโน้มตลาดคืออะไร: คำจำกัดความและความหมาย

แนวโน้มตลาด หมายถึง ทิศทางทั่วไปที่ตลาดหรือสินทรัพย์หนึ่ง ๆ เคลื่อนไหวในช่วงเวลาหนึ่ง มันให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและผู้ขายที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขาย การทำความเข้าใจแนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมันจะช่วยในการระบุโอกาสและจัดการความเสี่ยง

CREATIVE 2182_1200x675 (1).png

ประเภทต่าง ๆ ของแนวโน้มตลาด

การทำความเข้าใจแนวโน้มของตลาดประเภทต่าง ๆ จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยรวม และช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น

แนวโน้มตามทิศทาง

ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจะจำแนกแนวโน้มตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา โดยเน้นสามประเภทหลัก ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง และแนวโน้มออกข้าง

แนวโน้มขาขึ้น

แนวโน้มขาขึ้นหรือที่เรียกว่าแนวโน้มกระทิงนั้น หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ราคาสูงสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะสูงกว่าราคาสูงสุดก่อนหน้า และแต่ละราคาต่ำสุดที่ตามมาจะสูงกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้าเช่นกัน เทรดเดอร์อาจได้รับกำไรจากการวางคำสั่ง Buy ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น

แนวโน้มขาลง

ในทางกลับกัน แนวโน้มขาลงหรือที่เรียกว่าแนวโน้มหมีจะเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าเดิม และจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิม ราคาต่ำสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะต่ำกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้า และราคาสูงสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะต่ำกว่าราคาสูงสุดก่อนหน้าเช่นกัน เทรดเดอร์แนวโน้มจะทำกำไรจากแนวโน้มขาลงได้ด้วยการวางคำสั่ง Sell

ในภาพด้านล่าง คุณจะเห็นว่าแนวโน้มขาลงก่อตัวเป็นเส้นโค้งที่มองเห็นได้ แล้วค่อย ๆ ไปถึงระดับราคาที่ต่ำกว่า

CREATIVE 2182_1200x675_1.png

แนวโน้มออกข้าง (ไซด์เวย์)

แนวโน้มออกข้างหรือที่เรียกว่าแนวโน้มแนวราบหรือแนวโน้มที่เป็นกลางจะเกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่อยู่ภายในช่วงราคาที่เฉพาะเจาะจง ผันผวนขึ้นและลงโดยไม่แสดงทิศทางขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน ในช่วงที่มีแนวโน้มออกข้าง เทรดเดอร์อาจประสบกับโอกาสที่จำกัดในการทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคามักจะอยู่ในช่วงที่จำกัด

กราฟด้านล่างจะแสดงให้เห็นว่าภายในแนวโน้มออกข้าง จุดสูงสุดและต่ำสุดที่ต่อเนื่องกันจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกันโดยประมาณ สิ่งนี้จะสร้างรูปแบบแนวนอนที่บ่งชี้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

CREATIVE 2182_1200x675_2.png

แนวโน้มตามระยะเวลา

แนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง และแนวโน้มออกข้างอาจแตกต่างกันไปตามกรอบเวลา แนวโน้มเหล่านี้สามารถคงอยู่ได้สองสามวันไปจนถึงหลายปี เทรดเดอร์จำเป็นต้องตระหนักถึงกรอบเวลาการซื้อขายของแนวโน้มและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม

แนวโน้มระยะยาว

แนวโน้มระยะยาวมีระยะเวลาตั้งแต่หลายเดือนไปจนถึงหลายปี แนวโน้มเหล่านี้จะได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงในวงจรธุรกิจและเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจ

แนวโน้มระยะกลาง

แนวโน้มระยะกลางมักจะใช้เวลาสองสามสัปดาห์ถึงสองสามเดือน พวกมันจะถูกขับเคลื่อนโดยการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์และปัจจัยทางเทคนิค

แนวโน้มระยะสั้น

แนวโน้มระยะสั้นหมายถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นภายในสองสามวันจนไปจนถึงหนึ่งเดือน ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่นี่คือข่าวปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย

วิธีระบุแนวโน้มตลาดและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์

มีหลากหลายวิธีการและแนวทางที่เทรดเดอร์สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ในการกำหนดแนวโน้มของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มโอกาสของคำสั่งซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับคำแนะนำโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างกลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม โปรดดูบทความของเรา คู่มือกลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม: มันคืออะไรและจะสร้างกลยุทธ์ตามแนวโน้มได้อย่างไร?

ที่นี่ เราจะแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติโดยสังเขปเพื่อช่วยให้คุณมองเห็นแนวโน้มและใช้ประโยชน์จากมันเพื่อให้คุณได้เปรียบ

ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและเครื่องมือของมันจะให้สัญญาณที่สามารถชี้นำกระบวนการตัดสินใจของคุณได้ ดังนั้น จงใช้รูปแบบกราฟและเส้นแนวโน้มในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและระบุแนวโน้ม มองหารูปแบบของจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดสูงสุดที่ต่ำลงและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงในแนวโน้มขาลง ใช้ค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่หรือออสซิลเลเตอร์ต่าง ๆ เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มและโมเมนตัม

ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการ ข่าวกิจกรรม และแนวโน้มอุตสาหกรรม ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกิดความเข้าใจที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคา

ตรวจสอบความเชื่อมั่นของตลาด

ตัวบ่งชี้เช่น ดัชนีความกลัวและความโลภ หรืออัตราส่วน Put-Call สามารถอธิบายอารมณ์โดยรวมของผู้เข้าร่วมตลาดและการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มได้ ดังนั้น ให้พิจารณาความเชื่อมั่นของตลาดเพื่อรับมุมมองเพิ่มเติมสำหรับแนวทางของคุณ

ใช้หลายกรอบเวลา

วิเคราะห์แนวโน้มในกรอบเวลาต่าง ๆ เพื่อให้ได้มุมมองตลาดอย่างครอบคลุม พิจารณาใช้กรอบเวลาที่สูงขึ้นในการระบุแนวโน้ม ในกรณีนี้ สูตรในอุดมคติคือ 1:4 หากซื้อขายในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ให้ระบุแนวโน้มด้วยกรอบเวลา 4 ชั่วโมง

ใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง

ใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงเสมอ เช่น การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss และการจัดการขนาดของตำแหน่ง กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนและช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

ตัวอย่างของแนวโน้ม

เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มของตลาดได้ดีขึ้น เดี๋ยวเรามาลองพิจารณาตัวอย่างนี้ดู สมมติว่าราคาหุ้นของบริษัท XYZ ได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น สิ่งนี้จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น เราสามารถยืนยันทิศทางขาขึ้นของตลาดได้ด้วยการขีดเส้นแนวโน้มแนวรับที่เชื่อมต่อกับจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

CREATIVE 2182_1200x675_3.png

หุ้น NVIDIA อยู่ในช่วงขาขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 และพุ่งขึ้นมากกว่า 190%

เส้นแนวโน้มจะแสดงให้เห็นแนวโน้มของตลาดและช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุระดับแนวรับที่เป็นไปได้ในแนวโน้มขาขึ้นหรือระดับแนวต้านในแนวโน้มขาลงได้ พวกมันจะทำหน้าที่เป็นระดับแบบไดนามิกที่บ่งบอกถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายอาจเข้าสู่ตลาด

ปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มตลาด?

แนวโน้มตลาดได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย นี่คือสามองค์ประกอบหลักที่กำหนดแนวโน้มตลาด

  • เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการตัดสินใจของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายการเงินและการคลัง
  • ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย
  • ความเชื่อมั่นของนักลงทุน จิตวิทยาตลาด และพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบัน

สรุป

การทำความเข้าใจแนวโน้มตลาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนในการท่องไปในโลกแห่งการซื้อขายที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน เทรดเดอร์จะสามารถระบุโอกาส จัดการความเสี่ยง และทำการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น

โปรดจำไว้ว่าแนวโน้มตลาดนั้นไม่คงที่ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามและปรับกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ด้วยวิธีการที่เป็นระบบและการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มของตลาดเพื่อเพิ่มความสำเร็จในการซื้อขายของคุณได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

แนวโน้มตลาดคืออะไร?

แนวโน้มตลาด หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เมื่อเวลาผ่านไป ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค หากราคาทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน หากราคาแสดงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง นั่นจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะพึ่งพาแนวโน้มของตลาดเพื่อรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในตลาดที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อการเก็งกำไรได้

แนวโน้มตลาดสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ 100% หรือไม่?

แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายแนวโน้มของตลาดได้แบบไม่มีผิดพลาด แต่การวิเคราะห์ข้อมูลราคาในอดีต ตัวบ่งชี้ตลาด และปัจจัยพื้นฐานสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าสำหรับการตัดสินใจซื้อขายอย่างชาญฉลาดได้

  • 3671

ประกาศการเก็บรวบรวมข้อมูล

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

โทรกลับ

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

เราได้รับคำร้องของคุณแล้ว

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

คำขอโทรกลับครั้งต่อไปสำหรับหมายเลขโทรศัพท์นี้
จะพร้อมใช้งานใน

หากคุณมีปัญหาเร่งด่วนโปรดติดต่อเราผ่านทาง
สนทนาออนไลน์

เกิดข้อผิดพลาดภายใน กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง

อย่ามัวเสียเวลา - ติดตามดูว่า NFP ส่งผลกระทบอย่างไร ต่อ USD แล้วทำกำไรเลยสิ!

คุณกำลังใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่ากว่านี้

อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือลองใช้เพื่อการเทรดที่สะดวกสบายและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

Safari Chrome Firefox Opera