จะเทรดด้วยเลเวอเรจได้อย่างไร?

เลเวอเรจคือการใช้เงินที่ยืมมา (เรียกว่า ทุน) เพื่อลงทุนในสกุลเงิน หุ้น หรือสินทรัพย์ การใช้เลเวอเรจจะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเทรดเดอร์เมื่อทำการเทรด Forex ได้ เนื่องจากล็อตของ Forex อาจมีขนาดใหญ่ เลเวอเรจช่วยให้สามารถซื้อขายล็อตที่ใหญ่ขึ้นและเปิดตำแหน่งได้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้อิควิตี้ทั้งหมดของคุณลงในการซื้อขายขนาดใหญ่มหึมาเพียงครั้งเดียว

ตัวอย่างนี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น สมมติว่าคุณต้องการซื้อหุ้น GOOGLE หนึ่งหุ้นที่มีมูลค่า $2,000 แต่คุณมีเงินทุนเพียง $200 หากคุณใช้เลเวอเรจ 1:10 เงิน $200 ของคุณจะกลายเป็น $2,000 และคุณจะสามารถซื้อหุ้นนี้ได้ ในกรณีนี้ จาก 100% ของจำนวนเงินที่ใช้เทรด คุณใช้เงินเพียง 10% ในขณะที่โบรกเกอร์ของคุณจะให้ยืมอีก 90% ที่เหลือ

อัตราส่วนเลเวอเรจคืออะไร?

อัตราส่วนเลเวอเรจแสดงถึงมูลค่าตำแหน่งต่อจำนวนเงินลงทุนที่กำหนด FBS เสนอเลเวอเรจสูงถึง 3000:1 อย่างไรก็ตาม มันจะแตกต่างกันไปตามเขตอำนาจศาลและประเภทสินทรัพย์

ด้วยเลเวอเรจ 1000:1 คุณสามารถควบคุมตำแหน่งการเทรด $100,000 ได้ด้วยเงินเพียง $100 โดยที่การเปลี่ยนแปลงราคาในเชิงบวก 1% ในตลาดจะส่งผลให้ทำกำไรได้ถึง $1,000 (1% ของ $100,000) หากไม่มีเลเวอเรจ การเคลื่อนไหวของราคาในเชิงบวก 1% จะส่งผลให้ได้กำไรเพียง $1 (1% ของ $100) ตำแหน่งที่เทรดด้วยเลเวอเรจ 1000:1 ผลกำไร/ขาดทุนที่ได้จะถูกคูณ 1,000 เท่า

สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจวิธีการคำนวณอัตราส่วนเลเวอเรจ สูตรต่อไปนี้เป็นสูตรที่ใช้บ่อยและจำได้ง่าย:

L = A / M

โดยที่ L คือเลเวอเรจ, A คือปริมาณการซื้อขาย และ M คือจำนวนมาร์จิ้น

อย่างไรก็ตาม การคำนวณจำนวนมาร์จิ้น M มีความจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์มากกว่า

M = A / L

ตัวอย่าง:

เทรดเดอร์ต้องการซื้อ EURUSD 1 ล็อต ซึ่งมีมูลค่า $100,000 โดยมีเลเวอเรจ 1:100

M = $100,000 / 100 = $1,000

หมายความว่าเทรดเดอร์ต้องมีฟรีมาร์จิ้น (เงินประกันคงเหลือ) $1,000

จำนวนมาร์จิ้นของ Forex ที่กำหนดจะขึ้นอยู่กับอัตราส่วนเลเวอเรจที่เทรดเดอร์เลือก รวมถึงขนาดล็อตและชนิดของตราสาร ตัวอย่างดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของเลเวอเรจและมาร์จิ้นของ FBS ที่จำเป็นต้องใช้:

ความเสี่ยงของการเทรดด้วยเลเวอเรจ

เลเวอเรจที่แท้จริงสามารถเพิ่มผลกำไรหรือขาดทุนของคุณได้ในขนาดเดียวกัน ยิ่งเลเวอเรจมากเท่าไร เทรดเดอร์ก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นเท่านั้น

มาขยายความประเด็นนี้ด้วยตัวอย่างนี้กัน เทรดเดอร์ A และเทรดเดอร์ B มีทุนในการเทรด $1,000 หลังจากที่ทำการวิเคราะห์ ทั้งคู่คิดเห็นตรงกันว่า EURUSD ได้มาถึงจุดต่ำสุดแล้วและมันน่าจะกลับตัวขึ้น ดังนั้นทั้งสองจึงเข้าซื้อ EURUSD ที่ 1.00000

เทรดเดอร์ A เลือกเลเวอเรจ 1:100 ในการเทรดนี้ โดยเข้าซื้อ EURUSD $100,000 (1 ล็อต) (100 x $1,000) ในเวลาเดียวกัน เทรดเดอร์ B เลือกเลเวอเรจ 1:10 ในการเทรดนี้ โดยเข้าซื้อ EURUSD $10,000 (0.1 ล็อต) (10 x $1,000)

มูลค่าจุดสำหรับ EURUSD มีมูลค่า 1$

หาก EURUSD ร่วงลงเหลือ 0.99500 ราคาจะร่วงลงไป 500 จุด ในกรณีนี้ เทรดเดอร์ A สูญเสีย: 500 จุด x $1 x 1 ล็อต = $500 หรือ 50% ของเงินทุน

ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ B จะสูญเสีย:

500 จุด x $1 x 0.1 ล็อต = $50 หรือ 5% ของเงินทุน

ตารางนี้เปรียบเทียบให้เห็นว่าบัญชีซื้อขายของเทรดเดอร์สองคนนี้เป็นอย่างไรหลังจากที่สูญเสียไป 500 จุด

ตัวอย่างนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการความเสี่ยง เนื่องจากการใช้เงิน 100% ของเงินทุนการซื้อขายของคุณเพื่อเป็นมาร์จิ้นสำหรับการซื้อขายครั้งเดียวจะเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดด้วยเลเวอเรจ

ข้อดีของการเทรดด้วยเลเวอเรจ

เงินทุนเพิ่มขึ้น เลเวอเรจช่วยเพิ่มเงินทุนที่สามารถลงทุนในตลาดต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 100:1 คุณสามารถควบคุมเงินทุนการซื้อขาย $100,000 ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเงินทุนเพียง $1,000 ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถจัดสรรจำนวนเงินเยอะๆ ให้กับตำแหน่งการเทรดต่างๆ ในพอร์ตของคุณได้

เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย เลเวอเรจเป็นเงินกู้ที่โบรกเกอร์ของคุณให้คุณยืม เพื่อให้คุณเปิดตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นในตลาดได้ อย่างไรก็ตาม 'เงินกู้' นี้ไม่มีภาระผูกพันใดๆ ในรูปแบบของดอกเบี้ยหรือค่าคอมมิชชัน และคุณสามารถใช้ในลักษณะใดก็ได้ที่คุณต้องการเมื่อทำการซื้อขาย

บรรเทาผลกระทบจากความผันผวนต่ำ การเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดมักเกิดขึ้นในวัฏจักรของความผันผวนสูงและต่ำ ซึ่งหมายความว่าช่วงเวลาที่มีความผันผวนต่ำอาจทำให้เทรดเดอร์รู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย โชคดีที่การเทรดด้วยเลเวอเรจนั้น เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น แม้ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนต่ำ

การซื้อขายในตลาดพรีเมียม เลเวอเรจทำให้เทรดเดอร์รายย่อยทั่วไปสามารถซื้อขายตราสารที่มีราคาแพง ซึ่งเทรดเดอร์ไม่สามารถจ่ายด้วยเงินทุนของตนเองได้

ข้อเสียของการเทรดด้วยเลเวอเรจ

ทวีคูณการสูญเสีย ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดเมื่อทำการซื้อขายด้วยเลเวอเรจคือการที่มันทวีคูณการสูญเสีย เมื่อตลาดพุ่งสวนทางกับคุณ เลเวอเรจอาจต้องการใช้เงินทุนแค่เพียงเล็กน้อย แต่การสูญเสียอาจมีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากผลการซื้อขายขึ้นอยู่กับขนาดตำแหน่งทั้งหมดที่คุณควบคุม

ความเสี่ยงที่จะเกิด Margin Call 'Margin Call' เกิดขึ้นเมื่อการสูญเสียลอยตัวสูงเกินมาร์จิ้นที่คุณใช้ เนื่องจากเลเวอเรจทวีคูณการสูญเสีย มันจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิด 'Margin Call' อยู่เสมอเมื่อคุณเปิดตำแหน่งการซื้อขายในตลาดการเงินที่ผันผวนอย่างรวดเร็ว

ตลาดใดบ้างที่คุณสามารถเทรดโดยใช้เลเวอเรจได้?

การเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจ

การเทรด Forex นั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสกุลเงินต่างประเทศในตลาดโลก อัตราส่วนเลเวอเรจของ Forex นั้นเริ่มต้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ โดยอยู่ที่ประมาณ 50:1 ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะได้กำไรหรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองอย่างไร

เทรดเดอร์ Forex ติดตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในหน่วยจุด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาสกุลเงิน การเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของเซ็นต์เท่านั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคู่สกุลเงินเช่น GBPUSD ขยับ 1,000 จุด จาก 1.95000 เป็น 1.96000 อัตราแลกเปลี่ยนขยับเพียง 1 เซ็นต์เท่านั้น

ดังนั้น ธุรกรรมของสกุลเงินจะต้องดำเนินการในปริมาณที่มาก เพื่อให้สามารถเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยเหล่านี้ให้เป็นกำไรที่มากขึ้นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผลการซื้อขายในตลาด Forex ได้รับการทวีคูณผ่านเลเวอเรจ เมื่อคุณจัดการกับจำนวนเงิน เช่น $100,000 การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาของสกุลเงินอาจส่งผลให้เกิดผลกำไรหรือขาดทุนจำนวนมากได้

หุ้นและดัชนี (CFD) กับเลเวอเรจ

สัญญาการซื้อขายส่วนต่าง (CFD) คือสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่กำหนดว่าผู้ซื้อต้องจ่ายส่วนต่างระหว่างมูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์และมูลค่าของสินทรัพย์ ณ เวลาทำสัญญา CFD ช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนได้กำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง หมายความว่าเทรดเดอร์จะไม่ได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่คุณซื้อ มูลค่าของสัญญา CFD ไม่ได้พิจารณาถึงมูลค่าพื้นฐานของสินทรัพย์ โดยพิจารณาเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของราคาระหว่างจุดเข้าและจุดออกของการซื้อขาย นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ CFDs คือตราสารนี้ให้เลเวอเรจที่สูงกว่าการซื้อขายแบบเดิม

สินค้าโภคภัณฑ์กับเลเวอเรจ

การใช้เลเวอเรจเป็นเรื่องปกติในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่าการซื้อขายหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะเป็นการลงทุนระยะสั้น ตรงกันข้ามกับหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆ ในตลาดอื่นๆ ที่การซื้อและถือไว้ในระยะยาวเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้ คุณยังมีเวลามากขึ้นในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ สำหรับหุ้น หลักๆ แล้วคุณทำการซื้อขายในช่วงเวลาทำการปกติ ในตอนที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ

โดยรวมแล้ว การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ถือว่ามีความเสี่ยงสูงและเป็นการเก็งกำไรมากกว่าการซื้อขายหุ้น แต่ก็สามารถนำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้นได้เช่นกัน

คำถามเกี่ยวกับเลเวอเรจในการเทรด

การเทรดด้วยเลเวอเรจปลอดภัยหรือไม่?

แม้ว่าเลเวอเรจอาจเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้นได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน: หากการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงและการสูญเสียของการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นได้

การเทรดด้วยเลเวอเรจนั้นคุ้มค่าไหม?

การซื้อขายด้วยเลเวอเรจนั้นมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้นักลงทุนที่มีเงินสดในมือน้อยให้มีอำนาจการซื้อขายเพิ่มขึ้น และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้

ตราสารใดบ้างที่เทรดด้วยเลเวอเรจได้?

กับ FBS คุณสามารถซื้อขายสกุลเงิน โลหะ พลังงาน หุ้น ดัชนี และแม้แต่สกุลเงินดิจิทัลด้วยเลเวอเรจได้ จำนวนเลเวอเรจสูงสุดที่อนุญาตให้ใช้ได้ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและตราสารการซื้อขาย

การเทรดด้วยเลเวอเรจถือว่าเป็นฮาลาลในศาสนาอิสลามหรือไม่?

ใช่ การเทรดด้วยเลเวอเรจนั้นเป็นฮาลาลในศาสนาอิสลาม เลเวอเรจเป็นอะไรที่มากกว่าการใช้หนี้เพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือใช้กลยุทธ์การลงทุน แต่ถึงอย่างนั้น การลงทุนที่เทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจของแพลตฟอร์มการซื้อขายจะต้องสอดคล้องกับชาริอะฮ์ โดยรวมแล้ว การเทรดด้วยเลเวอเรจเป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์ในศาสนาอิสลาม

สรุป

เมื่อคุณได้เรียนรู้วิธีจัดการเลเวอเรจแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวมันเลย ทุกคนสามารถใช้เลเวอเรจได้อย่างประสบความสำเร็จและสร้างผลกำไรได้ด้วยการจัดการที่เหมาะสม เช่นเดียวกับตราสารที่มีความเสี่ยง เลเวอเรจต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวัง เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะทำเช่นนี้แล้ว มันก็จะไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องกังวล

เลเวอเรจจริงจำนวนเล็กน้อยที่ใช้กับการเทรดแต่ละครั้งช่วยให้เทรดเดอร์มีพื้นที่ให้หายใจหายคอมากขึ้นได้ โดยการตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ที่กว้างขึ้นแต่มีความสมเหตุสมผลและช่วยหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินทุนที่สูงขึ้นได้ การเทรดด้วยเลเวอเรจที่สูงสามารถทำให้พอร์ตในบัญชีซื้อขายของคุณแตกได้อย่างรวดเร็วหากตลาดพุ่งสวนทางกับคุณ เพราะคุณจะขาดทุนมากขึ้นเนื่องจากขนาดล็อตมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โปรดจำไว้ว่าเลเวอเรจนั้นมีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ตามความต้องการของเทรดเดอร์แต่ละราย