การลดค่าสเปรดการแลกเปลี่ยน: มีความหมายอย่างไรต่อเทรดเดอร์?
เมื่อคุณเริ่มมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีศักยภาพ คุณอาจสังเกตเห็นว่าโบรกเกอร์บางรายจะได้รับค่าคอมมิชชันสำหรับการดำเนินการทุกคำสั่งซื้อขาย ในขณะที่รายอื่น ๆ จะเสนอบริการที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน ในกรณีส่วนใหญ่ สิ่งนี้จะหมายความว่า โบรกเกอร์จะใช้สิ่งที่เรียกว่าค่าสเปรดการแลกเปลี่ยน แทนการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน ซึ่งจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมให้เหลือน้อยที่สุด
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมว่าค่าสเปรดการแลกเปลี่ยนคืออะไร วิธีคำนวณ และค่าสเปรดการแลกเปลี่ยนนั้นสามารถลดลงได้หรือไม่
ค่าสเปรดคืออะไร?
เมื่อคุณซื้อขาย Forex คุณมักจะซื้อขายผ่านตัวกลางซึ่งก็คือโบรกเกอร์ที่ขายและซื้อสกุลเงินต่าง ๆ ให้และจากเทรดเดอร์ เนื่องจากเทรดเดอร์ไม่ได้ทำการซื้อขายในตลาด Forex โดยตรง แต่จะใช้บริการของโบรกเกอร์ จึงมีความแตกต่างระหว่างราคาที่เทรดเดอร์ขายสกุลเงินและราคาที่เทรดเดอร์ซื้อสกุลเงินนั้น ความแตกต่างนี้เรียกว่าค่าสเปรด
ตัวอย่างเช่น หากคุณแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ธนาคาร คุณจะเห็นว่าราคาที่ธนาคารเสนอขายสกุลเงินให้กับคุณนั้นสูงกว่าราคาที่ธนาคารพร้อมจ่ายเพื่อซื้อสกุลเงินเดียวกันนี้จากคุณ ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายนี้ก็คือค่าสเปรด และมันเป็นผลกำไรที่ธนาคารและโบรกเกอร์ที่ใช้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายประเภทนี้ได้รับจากการทำธุรกรรม
ค่าสเปรดแตกต่างจากค่าคอมมิชชันอย่างไร?
ทั้งค่าคอมมิชชันและค่าสเปรดต่างก็ทำหน้าที่เดียวกัน นั่นคือชำระค่าบริการต่าง ๆ ของโบรกเกอร์ อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ทำงานแตกต่างกันมาก
ค่าสเปรดจะรวมอยู่ในราคาที่เสนอให้กับเทรดเดอร์ในตอนที่พวกเขาเปิดคำสั่งซื้อขาย ค่าสเปรดสามารถเป็นได้ทั้งแบบคงที่และยืดหยุ่น ความแตกต่างระหว่างทั้งสองแบบคือโบรกเกอร์สามารถปรับค่าสเปรดแบบยืดหยุ่นได้โดยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดปัจจุบัน ในขณะที่ค่าสเปรดแบบคงที่จะยังคงเท่าเดิมโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขเหล่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือคุณต้องจ่ายค่าสเปรดหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำสั่งซื้อขาย
สำหรับค่าคอมมิชชันนั้นโบรกเกอร์จะเรียกเก็บเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและจะไม่รวมอยู่ในราคาที่เสนอ ส่วนใหญ่แล้วค่าคอมมิชชันจะคงที่ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายในจำนวนที่เท่ากันสำหรับการซื้อขายในปริมาณน้อยและปริมาณมาก นอกจากนี้ ค่าคอมมิชชันยังถูกเรียกเก็บสองครั้งต่อคำสั่งซื้อขาย ก็คือทั้งในตอนที่คุณเปิดและปิดคำสั่งซื้อขาย
ตัวเลือกใดจะเหมาะกับคุณมากกว่านั้นก็คงขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและความต้องการส่วนตัวของคุณ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ Forex ส่วนใหญ่จะเลือกค่าสเปรด เนื่องจากมันสามารถปรับเปลี่ยนได้และให้โอกาสในการทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ได้มากกว่า
สกุลเงินต่าง ๆ มีการเสนอราคาอย่างไร?
การซื้อขาย Forex หมายถึง การซื้อสกุลเงินหนึ่งในขณะที่ขายอีกสกุลเงินหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การซื้อขาย Forex นั้นจะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายคู่สกุลเงินที่ถูกระบุไว้บนกราฟอย่างเช่น USDCAD หรือ EURUSD สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงินนั้นเรียกว่าสกุลเงินหลัก ในขณะที่สกุลเงินที่สองจะเป็นสกุลเงินอ้างอิง
เมื่อมีการเสนอราคาคู่สกุลเงิน ราคาที่คุณเห็นจะแสดงถึงจำนวนของสกุลเงินอ้างอิงที่ต้องการสำหรับการซื้อหนึ่งหน่วยของสกุลเงินหลัก ตัวอย่างเช่น หาก USDJPY ถูกซื้อขายที่ราคา 134.2600 นั่นหมายความว่าคุณจะต้องจ่าย 134.26 เยนญี่ปุ่น เพื่อซื้อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
จะคำนวณค่าสเปรดได้อย่างไร?
การรู้วิธีการเสนอราคาของคู่สกุลเงินจะช่วยให้คุณสามารถระบุจำนวนค่าสเปรดที่คุณต้องจ่ายได้ หากคุณดูที่ราคาเสนอขายและราคาเสนอซื้อ คุณจะสังเกตได้ว่าราคาทั้งสองนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นในการคำนวณค่าสเปรด คุณต้องลบราคาเสนอซื้อ (ราคาขาย) ออกจากราคาเสนอขาย (ราคาซื้อ)
ดังนั้น หาก GBPUSD ซื้อขายที่ 1.2102/1.2105 ค่าสเปรดจะคำนวณดังนี้ 1.2105 - 1.2102 ซึ่งจะเท่ากับ 0.0003 (หรือ 30 จุด)
ค่าสเปรดแบบคงที่และแบบลอยตัว
ดังที่คุณได้เรียนรู้ไปแล้ว ค่าสเปรดสามารถเป็นได้ทั้งแบบคงที่หรือยืดหยุ่น (ลอยตัว)
ค่าสเปรดแบบคงที่จะยังคงเท่าเดิมแม้ว่าสภาวะตลาดจะเปลี่ยนไปก็ตาม นี่อาจเป็นข้อได้เปรียบในตลาดที่ผันผวนหรือหากเทรดเดอร์เป็นมือใหม่ เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกรรมจะยังคงเท่าเดิมและไม่ต้องห่วงว่ามันจะเกินกำไร อย่างไรก็ตาม ค่าสเปรดคงที่สามารถถูกรีโควตได้โดยไม่คาดคิดและไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งอาจรบกวนคำสั่งซื้อขายของคุณได้
ค่าสเปรดแบบลอยตัวจะถูกปรับในตอนที่สภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง มันสามารถแคบลงได้เมื่อไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้นในตลาด และสามารถขยายกว้างขึ้นได้ในตอนที่ตลาดมีความผันผวนสูง ค่าสเปรดแบบลอยตัวจะขึ้นอยู่กับระดับของอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน ดังนั้นเมื่อคุณคาดว่าตลาดจะมีความผันผวนสูง (เช่น หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ) คุณควรเตรียมพร้อมสำหรับค่าสเปรดที่กว้างขึ้น การซื้อขายแบบมีค่าสเปรดที่ผันผวนนั้นอาจเป็นอันตรายสำหรับมือใหม่เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกรรมอาจสูงกว่ากำไรโดยรวมจากการซื้อขายได้อย่างง่ายดาย แต่ค่าสเปรดจะให้ความโปร่งใสมากขึ้นในการซื้อขายและช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่คุณจ่ายไปจริง ๆ
จะซื้อขายด้วยค่าสเปรดต่ำได้อย่างไร?
สำหรับเทรดเดอร์ การซื้อขายด้วยค่าสเปรดแคบ ๆ นั้นย่อมทำกำไรได้มากกว่า ยิ่งคุณจ่ายค่าการทำธุรกรรมน้อยลงเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งสามารถลงทุนในคำสั่งซื้อขายของคุณได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลกำไรโดยรวมของคุณเพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังค่าสเปรดแคบ ๆ คือสภาพคล่องสูง ในตอนที่ตลาดประสบกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ปกติแล้วค่าสเปรดก็จะแคบมาก หากคู่สกุลเงิน Forex เป็นที่นิยมมากในหมู่เทรดเดอร์ พวกเขาจะซื้อและขายมันได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเปลี่ยนการซื้อให้เป็นกำไร ยิ่งมีการซื้อขายคู่สกุลเงินมากเท่าไหร่ โบรกเกอร์ก็จะได้รับค่าสเปรดมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าหากการซื้อขายดำเนินไปอย่างช้า ๆ และมีสภาพคล่องต่ำ โบรกเกอร์จะไม่ได้รับผลตอบแทนมากนักหากพวกเขายังคงบีบค่าสเปรดให้แคบอยู่ ซึ่งนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าสเปรดที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น
มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีสภาพคล่องสูง:
- ช่วงเวลาของวัน ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงวันธรรมดา ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถซื้อขายต่อได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการที่ไม่ค่อยมีคนคำนึงถึงเมื่อพูดถึงการซื้อขายสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น ตลาด Forex ในยุโรปและเอเชียจะเปิดทำการในช่วงเวลาทำงานตามมาตรฐาน ซึ่งจะไม่ทับซ้อนกัน ซึ่งหมายความว่าหากคุณกำลังซื้อขาย เช่น สกุลเงินเยนญี่ปุ่นในตอนที่ตลาด Forex ได้ย้ายไปทำการซื้อขายกันในช่วงเวลาตลาดยุโรปแล้ว คุณก็จะไม่เห็นสภาพคล่องมากนัก ซึ่งมันจะหมายถึงค่าสเปรดของ USDJPY จะกว้างกว่าคู่เงินต่าง ๆ ที่มีสกุลเงินของยุโรป
- ความผันผวน เมื่อตลาดเกิดความผันผวน อัตราแลกเปลี่ยนอาจผันผวนแบบสุ่ม ๆ เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ค่าสเปรดจึงมีแนวโน้มที่จะกว้างขึ้นเพื่อชดเชยการขาดเสถียรภาพในตลาดและเพื่อให้สอดคล้องกับระดับอุปสงค์และอุปทานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นี่คือเหตุผลที่การซื้อขายในตลาดที่ผันผวนขณะที่คุณพยายามลดต้นทุนการทำธุรกรรมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย
- เหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจสามารถมีอิทธิพลต่อความแข็งแกร่งของสกุลเงิน ซึ่งมันจะดึงดูดความสนใจจากเทรดเดอร์ได้ไม่มากก็น้อย แถมมันยังสามารถทำให้เกิดความผันผวนชั่วคราวในตลาดได้อีกด้วย ซึ่งสามารถผลักดันค่าสเปรดให้สูงขึ้นได้อีก
บางครั้ง โบรกเกอร์อาจลดค่าสเปรดของตัวเองลงให้เป็นข้อเสนอโปรโมชันเพื่อกระตุ้นให้เทรดเดอร์มีความกระตือรือร้นในตลาดมากขึ้น เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น คุณก็จะมีโอกาสใช้ประโยชน์จากค่าสเปรดต่ำได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนหรือสภาพคล่องสูง
ตัวอย่างเช่น FBS ได้ประกาศช่วงเวลาของการลดค่าสเปรดครั้งใหม่สำหรับตราสารทางการเงินทั้งหมด โดยได้มีการลดค่าสเปรด 10% สำหรับ EURUSD ลด 25% สำหรับ USDJPY และลดเกือบ 60% สำหรับ USDCAD เราขอแนะนำให้ใช้ข้อเสนอนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในขณะที่คุณยังสามารถทำได้
สรุป
ค่าสเปรดคือเงินที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากคุณสำหรับบริการต่าง ๆ ที่มีให้ ค่าสเปรดสามารถเป็นได้ทั้งแบบคงที่หรือลอยตัว ซึ่งคุณสามารถนำทั้งสองประเภทนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ หากโบรกเกอร์ของคุณคิดค่าสเปรดแบบลอยตัว คุณอาจรอจนกว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงที่มีสภาพคล่องสูงแล้วค่อยใช้ประโยชน์จากสเปรดที่ต่ำกว่า
หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดที่ดีกว่า FBS มีหลายข้อเสนอที่คุณอาจสนใจ ตั้งแต่บัญชี Standard ที่มีค่าสเปรดลอยตัวตั้งแต่ 5 จุด ไปจนถึงบัญชี Zero Spread ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ และอย่าลืมตรวจสอบข้อเสนอโปรโมชันพิเศษ (และจำกัด!) ของเรา และใช้ประโยชน์จากค่าสเปรดที่ลดลง