George Soros - เศรษฐีพันล้านที่ไม่เคยถูกเงินทำลาย

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS
1.png

นักลงทุน, คนใจบุญ, นักกิจกรรมสังคม, นักเขียน, คนที่ รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 56, ตามข้อมูลในนิตยสาร Forbes และแน่นอนเป็นตำนานเลยทีเดียว ใช่คุณมีคง พอจมีเค้าถึงที่เรากำลังจะพูดถึง สมญานามเหล่านี้ทั้ง หมดถูกมอบให้กับนักการเงินชาวอเมริกัน George Soros หรือพูดอย่างนี้ดีกว่าว่าสมควรได้รับการเทิดทูนเช่นนี้ มาตลอด 89 ปีของชีวิตของเขา คุณอาจเรียกเขาตามที่ คุณต้องการ แต่สิ่งสำคัญยังคงเหมือนเดิม — เขาเป็นคนที่ ผู้คนพูดถึงกันมาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง จากคืนนั้นเมื่อเขาได้เงินนับพันล้าน ใช่ — เขียนเลขศูนย์ กันจนนับไม่ถูกเลยล่ะวาต้องเขียนกี่ตัว

Soro ทำได้อย่างไร? เขาทำอะไรอีกไหมและประสบความสำเร็จ อีกไหม? และทำไมผู้คนทั่วโลกและโดยเฉพาะชุมชน FX ถึงยังคง ชื่นชมชายผู้นี้? วันนี้เราจะมารื้อฟื้นเรื่องราวของผู้มีชื่อเสียงระดับ โลกและอาจเป็นเทรดเดอร์ผู้ใจกว้างที่สุดตลอดกาล

เด็กที่สดใส, ชีวิตที่มืดมิด

2.png

ในช่วงแรกของโซรอสอาจไม่เหมือนเรื่อง "จากศูนย์ถึงฮีโร่" เค้าเกิดในปี 1930 ตอนนั้นมีชื่อว่า György Schwartz เขามาจากครอบครัวชาวยิวชนชั้นกลางที่อาศัยอยู่ใน บูดาเปสต์ และได้จัดเตรียมอนาคตที่มั่นคงเอาไว้ให้แก่ ลูกชายผู้ทะเยอทะยานของพวกเขา เราไม่จะพูดถึงเรื่องต้น ตระกูลและช่วงเวลาที่เขาเติบโตเพราะมันไม่ใช่เรื่องสลัก สำคัญอะไร แต่แน่ๆคือสงครามได้ทำให้ชีวิตของ György ต้องเปลี่ยนไป

ใช้นามสกุลอื่น, ปลอมแปลงเอกสาร, ซ่อนตัวและแยกตัวออก จากครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเหยื่อของการต่อต้านชาวยิว, และกลัวที่จะถูกจับไปฆ่า... ท่ามกลางสภาพที่เลวร้ายเช่นนี้ ญาติๆของโซรอสยังคงให้ความช่วยเหลือกับคนที่เผชิญเหตุ การณ์ที่น่ากลัวแบบเดียวกัน โชคดีที่ทั้งครอบครัวรอดชีวิตมาได้ พอ Soros มีอายุ 17 ปี เขาก็อพยพไปยังอังกฤษเพื่อไปเรียน และเป็นนักปรัชญา

ชีวิตวัยหนุ่มในลอนดอน — ทั้งหวานและขม

3.png

ลองทายดูว่า George Soros ได้เข้ามหาวิทยาลัยไหน? บางคน คิดว่าคงเป็นมหาวิทยาลัยระดับต่ำที่เด็กชายชาวยิวผู้ยากจนจะ จ่ายได้ ส่วนบางคนก็คงไม่เข้าใจว่าเขาจะไปเรียนได้อย่างไร เขาน่าจะทำงานหนักเพื่อประทังชีวิตมากกว่า เดี๋ยวนะ ทำไมเขา ต้องเลือกล่ะ? รู้มั้ยว่าเขาทั้งทำงานนอกเวลาเป็นพนักงานเสิร์ฟ และพนักงานยกกระเป๋าบนรถไฟเพื่อเอาเงินไปจ่ายค่าเล่าเรียน และมหาวิทยาลัยที่เขาได้เข้าเรียนคือ London School of Economics (LSE) เลยเชียวนะ

ไม่เลวเลยใช่ป่ะ? ลุง Soros ของเราได้เข้าศึกษาในหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของอังกฤษกับนักปรัชญา ชื่อดัง Karl Popper แต่ในที่สุด Soros ก็รู้ตัวว่าเขาสนใจ เศรษฐศาสตร์มากกว่า เข้าใช้เวลาสองปีในการเก็บประสบ การณ์การทำงานที่ธนาคารพาณิชย์ Singer & Friedlander และเรียนจบทั้งหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโทใน LSE ในที่สุดบัณฑิตน้อยอายุ 26 ปีก็ได้ย้ายไปที่นิวยอร์ก แล้วการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นก็เริ่มต้นขึ้น

ชาวอังกฤษ... อ๊ะ ไม่สิ ชายชาวยิวในนิวยอร์ก

4.png

Soros เริ่มต้นจากการเป็นนักเก็งกำไรและเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรื่องหุ้นยุโรปที่ได้รับความนิยมในเวลานั้น ในตอนนั้นเขา ได้ทำงานที่บริษัท Wall Street ในฐานะเทรดเดอร์และ นักวิเคราะห์ แต่ก็ไม่ล้มเลิกการเรียนรู้ปรัชญาและพัฒนา แนวคิดที่ฝังรากลึกในอุดมการณ์ของ Popper ในปี 37 เขาได้ย้ายไปร่วมงานกับกองทุน Eagle First และได้ทด ลองใช้กลยุทธ์การซื้อขาย ซึ่งการทดสอบนั้นก็ประสบ ความสำเร็จ และถัดมาอีกสองปีก็ได้สร้างกองทุนป้องกัน ความเสี่ยง Double Eagle ซึ่งในปี 1973 มีเงินลงทุนมาก ถึง $12 ล้าน แต่ Soros และผู้ช่วยของเขา Jim Rogers ได้ตัดสินใจย้ายออกและก่อตั้งกองทุนของตัวเองชื่อ Soros ซึ่งหลังจากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นกองทุน Quantum Fund ภายในเวลาเก้าปีมันได้เติบโตขึ้นถึง $381 ล้าน

นอกเหนือจากกิจกรรมการซื้อขายของเขาแล้ว Soros ยังมี ส่วนร่วมในการทำบุญอีกด้วย เขาไม่ได้เป็นคนรวยและโลภ ที่ประสบความสำเร็จ — ส่วนโชคดีของส่วนหนึ่งมาจากการ หมั่นลงทุนในการช่วยเหลือผู้อื่น ในตอนที่มีอายุ 54 ปี เขาก็ ได้ก่อตั้งมูลนิธิ Open Society Foundations เพื่อระดมทุน เพื่อบริจาคให้กับการพัฒนาการศึกษา, สาธารณสุข, ธุรกิจ และการสนับสนุนเสรีภาพในการออกเสียง, ความเสมอภาค และความยุติธรรมทั่วโลก อย่างน้อยๆเค้าก็รอดชีวิตจาก สงครามและพ้นจากการฟ้องร้องได้แหละ จิงมะ?

วันแห่งความรุ่งโรจน์

5.png

เพื่อมอบเงินทุนให้แก่คนอื่นๆในปริมาณขนาดนั้น คนๆนั้น ควรจะมีความั่นคง Soros ประสบความสำเร็จอย่างมากใน เรื่องนั้น กองทุนเพื่อการลงทุนของเขาได้สร้างผลตอบแทน เฉลี่ยต่อปีอย่างมหาศาล (ครั้งหนึ่งมันเคยสูงถึง 122%!) แต่มีอยู่วันหนึ่งที่ Soros ได้กำไรอย่างมหาศาล ในปี 1992 เขาได้เล่นกับวิกฤติสกุลเงินของสหราชอาณาจักรฯด้วยเท ขายเงินปอนด์ของอังกฤษ แล้วทำกำไรได้ถึงหนึ่งพันล้าน เหรียญในชั่วข้ามคืน ในช่วงเวลานั้นเขาไม่เพียได้รับเงินเท่านั้น แต่ยังได้รับสมญานามชายผู้ทำลายธนาคารกลางอังกฤษ, ได้รับความเคารพนักเศรษฐศาสตร์และนักการเมืองระดับ แนวหน้ารวมถึงผู้นำของประเทศต่างๆ และได้รับแม้กระทั่ง อำนาจที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางการ เมืองที่เกิดขึ้นในเวทีโลก ความสำเร็จนี้ไม่ได้หายไปแม้จะ เผชิญความล้มเหลวครั้งใหญ่อันเนื่องมาจากการสูญเสียเงิน จากการเดิมพันที่ผิดพลาดกับมูลค่าของเงินเยนของญี่ปุ่นใน ปี 1994 หรือการที่เขาถูกปรับเนื่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยใช้หุ้นภายในของธนาคารฝรั่งเศส SociétéGénérale

ดาวที่ยังส่องแสงอยู่

6.png

ลองใช้กลยุทธ์ใหม่ๆโดยพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของตลาด และวิกฤตการณ์ปี 2008 โซรอสได้รับเงินมูลค่าสุทธิ $8.3 พันล้าน ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020 เป็นเวลาประมาณ 40 ปีในช่วงปี 1969 ถึง 2009 เขาได้รวมการลงทุนในอัตรา 26.3% ซึ่งเป็น ใหญ่กว่า ผลตอบแทนของ Warren Buffett ที่ได้รับในช่วงเวลาเดียวกัน (21.4%)

ตอนนี้เขายังคงดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารของกองทุน Soros Fund Management LLC ที่ได้ตอนนี้ได้กลายเป็น บริษัทของครอบครัวหลังจากคืนเงินให้กับนักลงทุนภายนอก ไปหมดแล้ว นอกจากนี้ Soros ยังได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิ Open Society ที่มีโครงการในกว่า 100 ประเทศ, มีสำนักงาน ระดับภูมิภาค 37 แห่ง เขายังคงตระหนักถึงเหตุการณ์ทางสังคม, เศรษฐกิจ และการเมืองที่สำคัญ, ให้มุมมองและความคิดเห็น ของเขาผ่านการให้สัมภาษณ์และโพสต์ที่ Twitter ของเขาเอง (ตอนอายุ 89 ปี จริงๆนะ) หนังสือต่างๆของเขาเองก็ยังคงวาง ขายไปทั่วโลกรวมถึงหนังสือชีวประวัติของเขาด้วย

เราไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะอธิบายชีวิตของ Soros แต่ก็หวังว่าบทความของเราจะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องสำคัญและเป็นประโยชน์ มันเป็นไปได้เสมอที่จะประสบความสำเร็จในการ ซื้อขายแม้เงื่อนไขต่างๆดูเหมือนจะไม่เอื้ออำนวย ก็ตาม

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา