คู่มือ A-Z เรื่อง Brexit: การทำกำไรจากการหย่าร้าง ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เร้าใจที่สุด
Brexit ยังคงครองอันดับ #1 ของประเด็นหลักในภูมิภาคมา นานกว่า 3 ปีแล้ว มันมีการหักมุมไปมาหลายครั้งจนแทบจะ เหมือนรายการทีวี… แต่ก็ไม่มีใครละสายตาไปจากมันได้
มาดูกันว่ามันเริ่มต้นมายังไง, มันจะไปในทิศทางไหน และจะใช้มันให้เป็นประโยชน์ต่อการซื้อขายของคุณ ได้อย่างไร
ภาพรวมของ BREXIT
Brexit คืออะไร?
Brexit เป็นอักษรย่อที่มาจากคำว่า British exit — จุดเริ่มต้นของการที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพ ยุโรป สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรปเมื่อปี 1973 แล้วตัดสินใจออกในเดือนมิถุนายน 2016 หลังจาก การลงคะแนนสาธารณะ (การลงประชามติ)
ทำไมสหราชอาณาจักรถึงอยากจะออก?
ผู้สนับสนุนสถานการณ์ “ออก” ต่างให้เหตุผลหลายประการ เช่น ปัญหาการเข้าเมือง, ระบบราชการมากเกินไป, ภาษีศุลกากรของสหภาพยุโรป ฯลฯ อย่างไรก็ตามความ เชื่อมั่นหลักคือ
“การตัดสินใจเรื่องสหราชอาณาจักรควรดำเนินการใน สหราชอาณาจักร”
นี่คือสิ่งที่ผู้คน 52% โหวตให้กับการลงประชามติ ในปี 2016 แล้วมันก็เริ่มต้นขึ้น
ข้อตกลง Brexit
เพื่อให้การแยกจากกันไม่เจ็บปวดสำหรับทั้งสองฝ่าย สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปคาดว่าจะเห็นด้วย กับข้อตกลงซึ่งเป็นชุดของข้อกำหนดของกระบวนการ ถอนเงินซึ่งครอบคลุมหลายหัวข้อ:
- สิทธิของพลเมืองสหภาพยุโรปในสหราชอาณาจักร และพลเมืองอังกฤษในสหภาพยุโรป
- สหราชอาณาจักรต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ให้กับสหภาพยุโรป (ค่าแยกตัว)
- แผนรับมือชายแดนไอร์แลนด์
เกิดอะไรขึ้น?
เคยมีการวางที่จะทำให้ Brexit เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2018 แต่กลับถูกเลื่อนออกไปหลายครั้งเนื่องจากปัญหา หลายประการ — ส่วนใหญ่เป็นเพราะปัญหาเรื่องแผนรับมือ
ชายแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือ (ส่วนหนึ่งของสหราช อาณาจักร) และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (รัฐอิสระ) จะเป็นพรมแดน ทางบกเพียงแห่งเดียวระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ซึ่งตอนนี้ไม่มีด่านชายแดนหรือการตรวจสอบคนหรือสินค้าข้าม พรมแดน สถานะเช่นนี้ของมันนับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการ ซื้อขายหลัง Brexit
- สหภาพยุโรปนำเสนอ 'แผนรับมือ' — การรับประกันทางกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยง 'การควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด' ในกรณีที่ Brexit ไม่มีข้อตกลง ซึ่งนั่นก็หมายถึงสถานะไอร์แลนด์เหนือ จะมีสถานะพิเศษ
- สหราชอาณาจักรไม่ชอบแนวคิดนี้เนื่องจากสถานะที่แตกต่าง ของไอร์แลนด์เหนืออาจคุกคามการดำรงอยู่ของสหราชอาณาจักร
เนื่องจากปัญหาชาวไอริชเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใน การถอนตัว มันจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่คอยขัดขวาง Brexit
Brexit ที่ไม่มีข้อตกลง
ไม่มีข้อตกลงหมายถึงสหราชอาณาจักรอาจแยกตัวทันทีโดย ไม่มีข้อตกลงใดๆ นายกรัฐคนตรีคนใหม่นาย Boris Johnson มุ่งมั่นที่จะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคม — มีข้อตกลง หรือไม่มีข้อตกลง ฝ่ายตรงข้ามของเขาอ้างว่า Brexit ที่ไม่มี ข้อตกลงจะทำร้ายประเทศมากเกินไปเพื่อให้ทุกแนวคิดไม่คุ้ม ที่จะพยายาม นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีหลัง Brexit ที่ไม่มีข้อตกลง
- ออกจากยุโรปตลาดเดียวและสหภาพศุลกากร
- ออกจากสถาบันในสหภาพยุโรป เช่น ศาลยุติธรรมแห่งยุโรป และสำนักงานสหภาพยุโรปเพื่อความร่วมมือในการบังคับใช้ กฎหมาย
- สิ้นสุดการเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรในหน่วยงานต่างๆ ในสหภาพยุโรป
- ระงับการให้เงินสนับสนุนงบประมาณของสหภาพยุโรป — ประมาณ £9 หมื่นล้านต่อปี
ผลกระทบของ BREXIT ต่อการค้าทั่วโลก
นี่คือสิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ในกรณีที่เกิด Brexit
- คู่ค้าของสหราชอาณาจักร
ประเทศต่างๆที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหราชอาณาจักร จะมีความเปราะบางที่สุด — โดยเฉพาะไอร์แลนด์, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, ไซปรัส และเยอรมัน
- อุตสาหกรรมต่างๆ
ส่วนที่อาจได้รับผลกระทบเรื่องการส่งออกมากที่สุดก็คือ ยานยนต์, ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป
- ส่วนของงานบริการ
ลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกอุตสาหกรรม บริการคิดเป็นเกือบ 80% ของเศรษฐกิจโดยรวมของ สหราชอาณาจักร ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับบริการ ทางด้านการประกันภัยและการเงิน
- ต้นทุนการค้า
ในสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด — ไม่ว่าจะเป็นข้อ ตกลงการค้าเสรี (FTA) หรือการย้อนกลับไปสู่กฎของ องค์การการค้าโลก — ต้นทุนการค้าระหว่าง สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปจะเพิ่มขึ้น
- การขนส่งสินค้า
หลังจากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปแล้ว สหราชอาณาจักร จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายการคลังของสหภาพยุโรปอีกต่อไป ซึ่งอาจหมายถึงการเก็บภาษีสองเท่ากับบริษัทที่ขนส่งสินค้าและ บริการข้ามไปมาระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป
- ห่วงโซ่อุปทาน
สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการด้านการเงิน, เหมืองแร่และ เคมีภัณฑ์, การขนส่ง, โทรคมนาคม และอุตสาหกรรมค้าส่งและ ค้าปลีก
- กระแสการค้าโลก
ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักรมี หลากหลายข้อตกลงการค้าเสรีกับ 58 ประเทศนอกสหภาพ ยุโรป ข้อตกลงเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องได้รับการเจรจาใหม่อีกครั้ง
โดยทั่วไปผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดจาก Brexit คือการลดลงของการค้าทวิภาคีระหว่างสหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป สิ่งนี้จะนำไปสู่การลดลงของ GDP และรายได้ที่แท้จริงเพราะด้วยต้นทุนการค้าที่สูงขึ้นจะส่งผล ให้ประสิทธิภาพของการไหลเวียนของทรัพยากรใน อุตสาหกรรมต่างๆลดลง
การซื้อขายตาม BREXIT
เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกที่ถอนตัวจาก สหภาพยุโรป มันอาจเป็นเรื่องยากที่เทรดเดอร์ Forex จะตีความเหตุการณ์ใด้ถูกต้องและคาดการณ์ได้แม่นยำ แต่อย่างไรก็ตามเราได้เรียนรู้บทเรียนบางอย่างแล้ว:
- สถานการณ์ที่ไม่มีข้อตกลง:
หากสหราชอาณาจักรเคารพกฎขององค์การการค้าโลก ก็จะมี ช่วงเวลาจัดการจนถึงปี 2020 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน อย่างมาก ความไม่แน่นอนนี้จะทำให้ค่าเงินปอนด์เกิดความ ผันผวนซึ่งจะทำให้มันเป็นสกุลเงินพื้นฐานที่ไม่น่าไว้ในคู่สกุล เงินต่างๆ
ต้นทุนในการทำธุรกรรมการค้าสำหรับผู้ส่งออกจะเพิ่มขึ้น ตามอัตราภาษีใหม่ ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบและผู้บริโภค จากสหภาพยุโรปจะได้กำไรน้อยลง สิ่งนี้จะมีผลกระทบ อย่างมากต่อตลาดหุ้นโลกและตลาดฟอเร็กซ์
สำหรับหุ้นนั้น บริษัทต่างๆที่มีสัญชาติสหราชอาณาจักร ที่อยู่ในต่างประเทศอาจมีผลประกอบการดี ในขณะที่หุ้น ของบริษัทต่างๆในประเทศอาจร่วงลง หากการค้าของ สหราชอาณาจักร — สหภาพยุโรปมีราคาแพงเกินไป ผู้คนจะเริ่มเทขายหุ้นออกเป็นจำนวนมาก
- สถานการณ์ที่ได้ข้อตกลง:
ในที่สุด GDP จะเริ่มมีความแข็งแกร่ง แต่การร่วงลง ของอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงิน GBP นั้นไม่สามารถ หลีกเลี่ยงได้ ส่วนที่แย่ที่สุดคือไม่มีใครสามารถบอก ได้ว่ามันจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัว และมันจะนำความท้าทายใหม่ๆแบบไหนมาด้วย
ดังนั้นคำสำคัญที่ใช้อธิบายโอกาสในการซื้อขายกับ Brexit คือ ความไม่มั่นคง
เป็นสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่แย่กันล่ะ?
สำหรับคนของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป — ไม่ดีเท่าไหร่ แต่สำหรับเทรดเดอร์มันกลับเป็นสิ่งที่ดีที่สุด — ความผันผวนที่สูง เป็นโอกาสของเทรดเดอร์เสมอ
หุ้นของสหราชอาณาจักร, GBP/USD และทองคำล้วนมีแนวโน้มที่ จะเผชิญกับการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สุด
หากต้องการลดความสูญเสียและเล่นอย่างปลอดภัย ให้ทำตาม คำแนะนำง่ายๆเหล่านี้และเตรียมพร้อมรับมือ Brexit:
- ติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์เรื่อง Brexit ของเรา
- ตั้งการแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงราคาเพื่อแจ้งให้คุณ ทราบถึงการเคลื่อนไหวที่สำคัญ
- ใช้ Stop loss ทุกครั้ง
- ตื่นตัวและเตรียมพร้อมลงมืออยู่ตลอด
คอยดูว่ามันจะเป็นไปในทิศทางไหน — ได้ข้อตกลง หรือ ไม่มีข้อตกลง!