คู่มือสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายเชิงรุก
ในตลาดมีอยู่ด้วยกันสองทีม: เทรดเดอร์และนักลงทุนที่มีความแข็งขัน เทรดเดอร์ไม่ต้องการรอนานเกินไปและชอบกระบวนการที่มีความต่อเนื่องในการขายและซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน นักลงทุนซื้อแล้วถือตราสารเป็นเวลาหลายปี พวกเขาจะเลือกวิธีที่ใช้เวลานานกว่ามากแต่ปลอดภัยกว่า
ในปัจจุบัน เทรดเดอร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆพากันเลือกใช้กลยุทธ์การซื้อขายเชิงรุกเพื่อให้สามารถทำกำไรได้เร็วขึ้น มาสำรวจเหตุผลในการเลือกและความแตกต่างระหว่างการซื้อแล้วถือ และการซื้อขายเชิงรุก หลังจากที่อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะสามารถกำหนดประเภทของเทรดเดอร์ของตุวคุณเองและเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดได้ง่ายขึ้น
หัวใจของการซื้อขายเชิงรุก
การซื้อขายเชิงรุกนั้นหมายถึงการซื้อและขายตราสารการเงินเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น ไม่มีการวัดเวลาที่แม่นยำสำหรับการซื้อขายเชิงรุกเนื่องจากเทรดเดอร์มีหลากหลายประเภทและกลยุทธ์ของพวกเขานั้นก็มีความหลากหลายซึ่งเราจะมาพิจารณากันในบทความนี้
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่มีความแข็งขันทุกคนมักจะเลือกตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและกรอบเวลาที่สั้นลง พวกเขาเอาชนะตลาด เนื่องจากในระสั้นราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก โดยทั่วไปแล้วพวกเขาเปิดออเดอร์ด้วยล็อตใหญ่ๆซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าและออกจากการซื้อขายได้อย่างง่ายดาย และใช้คำสั่งประเภทต่างๆขึ้นอยู่กับสถานการณ์
การซื้อขายเชิงรุก vs. การซื้อแล้วถือ
เมื่อเทียบกับการซื้อขายเชิงรุกแล้ว การซื้อแล้วถือจะเป็นกลยุทธ์เชิงรับที่คาดว่าจะเปิดการซื้อขายเป็นเวลาหลายปี หรือแม้กระทั่งเป็นเวลาหลายสิบปี ผู้คนที่ใช้แนวทางนี้หรือที่เรียกกันว่านักลงทุน จะเข้าซื้อในราคาที่ต่ำกว่า โดยคาดว่าตลาดและราคาสินทรัพย์จะเติบโตในระยะยาว ตราสารที่พวกเขาเลือกจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากกว่า
การซื้อขายเชิงรับนั้นมีความเชื่องช้าแแต่คงที่และไม่จำเป็นต้องติดตามกราฟบ่อย อย่างไรก็ตาม การซื้อสินทรัพย์โดยปราศจากความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้งนั้นยังคงไม่ดีพอ การเรียนรู้, การศึกษาบริษัท, และการรู้จักสินทรัพย์นั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ การซื้อแล้วถือนั้นนับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการสร้างรายได้ในตลาด แต่ทำไมสมาชิกในตลาดหลายคนถึงยังเลือกการซื้อขายเชิงรุกอยู่ล่ะ?
ในโลกอันรวดเร็วของเรา ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะรอผลกำไรเป็นเวลาหลายปี นี่คือเหตุผลที่ผู้คนจำนวนมากขึ้นพากันเลือกการซื้อขายเชิงรุกมากกว่ากลยุทธ์การซื้อแล้วถือ เทรดเดอร์ที่มีความแข็งขันจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคมากขึ้น และคอยติดตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและกราฟอยู่เสมอ การใช้ Stop Loss และ Take Profit เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องการซื้อขายเชิงรุกเนื่องจากราคามีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ซึ่งมันก็สามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
สาเหตุทั่วไปอีกประการหนึ่งคือความยืดหยุ่นของการซื้อขายเชิงรุกที่ให้โอกาสในการสร้างรายได้ในสถานการณ์ต่างๆของตลาด ซึ่งในกรณีของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อราคาขยับลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักลงทุนก็ทำได้แค่รอให้ราคากลับตัว ในทางตรงกันข้าม นักเทรดที่มีความแข็งขันสามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์และทำกำไรจากทั้งขาขึ้นและขาลง ความผันผวนเป็นเพื่อนของเทรดเดอร์ที่ความแข็งขันทุกคน ข้อดีข้อนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เข้าสู่ตลาดได้ในทุกสภาวะ
ส่วนจุดแข็งอีกข้อของการซื้อขายเชิงรุกคือสภาพคล่องของเงินทุน กล่าวอีกนัยหนึ่ง เทรดเดอร์สามารถถอนรายได้ของตนได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ในขณะที่นักลงทุนควรถือการลงทุนของตนเอาไว้อย่างน้อยหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น
เทรดเดอร์ที่มีความแข็งขันสามารถทำกำไรได้ภายในหลายสัปดาห์, หลายวัน, หรือแม้แต่หลายวินาที ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของเทรดเดอร์และกลยุทธ์ที่เลือกใช้งาน มาดูกลยุทธ์ที่แพร่หลายที่สุดในการซื้อขายเชิงรุกกันดีกว่า
กลยุทธ์การซื้อขายเชิงรุกยอดนิยม
ท่ามกลางกลยุทธ์ที่หลากหลาย ในบทความนี้เราจะมาพิจารณาสี่กลยุทธ์การซื้อขายเชิงรุกขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ เราจะให้คำแนะนำว่ากรอบเวลาใดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภท
เดย์เทรดเดอร์
กลยุทธ์การซื้อขายรายวัน. รูปแบบนี้จะหมายถึงการที่เทรดเดอร์เข้าและออกจากการซื้อขายภายในวันเดียวกัน ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีเวลาเพียงพอในการวิเคราะห์ตลาดและปรับตำแหน่งตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ เดย์เทรดเดอร์ควรมีกลยุทธ์การออกที่มีประสิทธิภาพเพื่อปิดคำสั่งซื้อที่มีกำไรภายในสิ้นวัน ดังนั้นจึงควรเลือกจากกรอบเวลา 5 นาทีถึง 1 ชั่วโมง บางครั้งกรอบเวลา 4 ชั่วโมงหรือหนึ่งวันก็เหมาะที่จะใช้ในวิเคราะห์ตลาดและปิดคำสั่งซื้อก่อนกลางคืนได้
สวิงเทรดเดอร์
กลยุทธ์สวิงเทรด. สวิงเทรดเดอร์จะอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานในเข้าสู่การซื้อขายที่ใช้เวลานานขึ้นเป็นเวลาหลายวันหรือสองสามสัปดาห์ เทรดเดอร์ประเภทนี้พร้อมที่จะใช้เวลามากขึ้นในการคาดหวังผลกำไรที่มากขึ้นจากการเทรดครั้งเดียว พวกเขาจะใช้กรอบเวลา 1 ชั่วโมงจนถึงรายสัปดาห์
เทรดเดอร์ระยะยาว
กลยุทธ์การเทรดระยะยาว. เทรดเดอร์ประเภทนี้จะเปิดคำสั่งซื้อเอาไว้เป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน จำเป็นต้องมีความเข้าใจตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานฯอย่างลึกซึ้ง ทุกกรอบเวลาที่สูงกว่ากรอบเวลารายวันนั้นเหมาะกับการเทรดในรูปแบบนี้
Scalper
กลยุทธ์การเทรด Scalping. เทรดเดอร์ประเภทนี้จะทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาที นอกจากนี้ scalper ที่ดีควรมีวินัยและสงบสติอารมณ์เพื่อป้องกันอาการตื่นตระหนก เป้าหมายของการ Scalping คือการเปิดคำสั่งซื้อในช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของวัน, ซื้อขายด้วยล็อตใหญ้ๆ, แล้วทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆของราคา จากนั้นก็ออกจากตลาดทันที กรอบเวลาที่ดีที่สุดคือตั้งแต่ 1 นาทีถึง 15 นาที
ค้นหากลยุทธ์ของคุณ, เรียนรู้, ฝึกฝน และหากกลยุทธ์ที่เลือกมานั้นใช้ได้ผลดี คุณค่อยขยับไปใช้กลยุทธ์อื่น พร้อมจะทำการซื้อขายเชิงรุกแล้วหรือยัง? เราเพิ่งเตรียมเคล็ดลับบางอย่างที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการเดินทางได้
การเป็นเทรดเดอร์ที่มีความแข็งขัน
ทุกคนที่ได้ตัดสินใจทำการซื้อขายเชิงรุกควรทราบถึงเหตุผลและเป้าหมาย แต่คนอาจมีเหตุผลและเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันที่สุดคือการมีอิสระทางการเงินมากขึ้น, การหลุดพ้นจากการทำงานออฟฟิศ, การได้ทำธุรกิจของตัวเอง, และการมีเวลามากขึ้นเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น จงตั้งเป้าหมายของคุณแล้วเริ่มเข้าสู่การซื้อขาย
หากปราศจากความเข้าใจตลาดและกระบวนการของตลาด การมีส่วนร่วมในการซื้อขายเชิงรุกนั้นมีความอันตราย จงติดอาวุธให้ตัวเองด้วยทฤษฎีและความรู้, เรียนรู้จากตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ, ศึกษาตลาดและแนวโน้ม
จากนั้นให้เลือกว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ประเภทไหน, สร้างกลยุทธ์, และเลือกกรอบเวลาที่รับได้เพื่อเริ่มฝึก อีกสิ่งที่สำคัญคือการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือที่นำเสนอเงื่อนไขการซื้อขายที่เอื้ออำนวย และมีสื่อการศึกษาและบัญชีทดลองให้เทรดเดอร์ หมั่นฝึกฝนทักษะและกลยุทธ์ของคุณด้วยการเทรดบนบัญชีทดลองจนกว่าคุณจะรู้สึกมั่นใจที่จะเทรดจริง
หลังจากที่เข้าสู่ตลาดจริงแล้ว, การปิดคำสั่งซื้อแรกของคุณก็จะมีกำไรและทำให้เทรดเดอร์ที่มีความแข็งขันมีความสุขมากขึ้น แต่ถึงแม้การปิดคำสั่งซื้อครั้งแรกนั้นจะขาดทุน สิ่งสำคัญต่อจากนั้นคือคุณจะต้องไม่ยอมแพ้ คุณสามารถย้อนกลับไปที่เทรดด้วยบัญชีทดลองอีกครั้งแล้วค่อยกลับมาเทรดด้วยบัญชีได้เสมอ ด้วยวิธีการที่เหมาะสม คุณจะเห็นผลลัพธ์
การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายเป็นขั้นตอนหลักและมีความสำคัญในทุกเส้นทางของเทรดเดอร์ การผสมผสานกลยุทธ์ก็เป็นหนึ่งในวิธีการซื้อขายที่ได้รับความนิยมและได้กำไรมากที่สุดในการเทรดเชิงรุก คุณสามารถใช้กรอบเวลาที่เหมาะสมกับรูปแบบการซื้อขายหนึ่งๆ แล้วทำกำไรได้เร็วขึ้น