Moving average – เครื่องมือยอดนิยมของเทรดเดอร์

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคต่างๆนั้นมีบทบาทที่สำคัญ: มันคำนวณค่าอะไรบางอย่างแล้วแสดงออกมา เป็นภาพให้เห็นในโปรแกรมเทรดซึ่งจะช่วยให้ เทรดเดอร์ประหยัดเวลา Moving Average เป็นตัวบ่งชี้สุดคลาสสิกและ เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์มากที่สุดเช่นกัน ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า MA ทำงานอย่างไร และจะใช้งานมันอย่างไรเพื่อปรับปรุงผลการเทรด ตอนนี้ Moving Average พร้อมให้ใช้งานแล้วใน แอปฯ FBS Trader

Moving Average คืออะไร?

แก่นสำคัญของตัวบ่งชี้ก็อยู่ในชื่อของมันเอง ประการแรก MA จะแสดงราคาเฉลี่ยของ period ที่คุณเลือก หากคุณเลือก period "50" ในกรอบเวลารายวัน เส้นจะแสดงราคาเฉลี่ยในช่วง 50 วันที่ผ่านมา พอเวลาผ่านไปและวันใหม่ก็มาถึงโดยไม่หยุด period "50" ก่อนหน้านี้ก็จะขยับตามไปด้วย จุดใหม่ๆปรากฏบนกราฟก่อตัวเป็นเส้น - Moving Average 50 วัน

จะใช้ Moving Averages ในการเทรดยังไงดี?

MA เป็นเครื่องมือที่ล้ำค่า มีสองวิธีที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงมือเทรด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. เมื่อแนวโน้มของราคาไม่มีความชัดเจน MA ก็จะแสดงให้คุณเห็น หาก MA วิ่งขึ้น มันก็เป็นแนวโน้มขาขึ้น หากตัวบ่งชี้วิ่งลง มันก็เป็นแนวโน้มขาลง ง่ายๆแค่นั้นแหละ
2. คุณสามารถใช้ MA เป็นแนวรับและแนวต้านได้ด้วยนะ หากราคามาจากด้านบนแล้วเข้าใกล้เส้น MA ก็มีโอกาสที่เส้นจะหยุดราคาไม่ให้ลงต่อ ได้ชั่วคราว หรือไม่ก็ทำให้มันกลับตัวขึ้นไป หากราคาพุ่งขึ้นจากด้านล่างไปหาเส้น MA ก็มีโอกาสที่เส้นจะหยุดราคาไม่ให้ขึ้นต่อ ได้ชั่วคราว หรือไม่ก็ทำให้มันกลับตัวลงไป เพียงเพิ่ม MA เข้าไปในกราฟแล้วคุณก็จะมี แนวรับและแนวต้านโดยอัตโนมัติ

ตั้งค่าแบบไหนดี?

ตัวบ่งชี้มีสองค่าพารามิเตอร์หลักๆ: ประเภท และ period

ประเภท หากคุณต้องการเส้นแบบคลาสสิก ที่แสดงราคาเฉลี่ย ให้เลือก Simple Moving Average (SMA) แล้วใช้กับราคาปิด หากคุณต้องการให้ MA ของคุณให้น้ำหนัก มากขึ้นกับราคาล่าสุด (เช่น มุ่งไปที่การเคลื่อนไหวล่าสุดของราคา) ให้เลือก Exponential Moving Average (EMA) หากเป้าหมายของคุณคือกำจัดการเคลื่อนไหว แบบสุ่มของราคาซึ่งไม่สำคัญและทำให้เราเสียสมาธิ ให้เลือก smoothed MA MA ประเภทนี้เหมาะสำหรับการกำหนดแนวโน้ม

Period ยิ่ง period สั้นเท่าไหร่ เส้น MA ก็ยิ่งอยู่ใกล้ราคา Moving Average ที่มี period "1" จริงๆแล้วมันก็คือราคา ยิ่ง period ใหญ่เท่าไหร่ เส้น MA ก็ยิ่งติดตาม การเคลื่อนไหวของราคาน้อยลงเท่านั้น เราขอแนะนำให้คุณลองเปลี่ยน period ของ MA ของคุณ เพื่อดูว่าเส้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง สำหรับกรอบเวลารายวัน, รายสัปดาห์, และรายเดือน เทรดเดอร์ชอบใช้ period 50, 100 และ 200 สำหรับกรอบเวลา H1 และต่ำกว่า period ยอดนิยมของ MA คือ 9, 12 และ 26

กลยุทธ์การเทรดด้วย Moving Averages

ทีนี้ก็ถึงส่วนที่สุดยอด - กลยุทธ์! กลยุทธ์การซื้อขายมีกฎต่างๆสำหรับการเข้า และออกตลาดให้คุณใช้แบบเสร็จสรรพ เพียงคุณทำตามขั้นตอนต่างๆอย่างระมัดระวัง จำไว้ว่าการทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีทดลองก่อน ย่อมดีกว่าเสมอ

กลยุทธ์ #1: สามกรอบเวลา

1. เพิ่มเส้น SMA-60 เข้าไปในกราฟ แนะนำให้ใช้กรอบเวลา M5, H1, และ H4 กับ EUR/USD หรือ GBP/USD
2. ตรวจสอบกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้น (H4) หากราคาปัจจุบันอยู่เหนือ SMA-60 ให้พิจารณาเปิด buy หากราคาปัจจุบันอยู่ใต้ SMA-60 ให้พิจารณาเปิด sell
3. ตรวจสอบกรอบเวลาถัดไป (H1) หากมีสัญญาณ buy ที่ H4 ตรงนี้ราคาปัจจุบัน ควรอยู่เหนือ SMA-60 ด้วย หากมีสัญญาณ sell ที่ H4 ตรงนี้ราคาปัจจุบัน ควรอยู่ใต้ SMA-60 ด้วย
4. ตรวจสอบกรอบเวลาสุดท้าย (M5) มองหาการตัดกันของราคากับเส้น SMA-60 หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการเปิด buy ให้รอให้ราคาตัดข้าม SMA-60 ไปด้านบน หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการเปิด sell ให้รอให้ราคาตัดข้าม SMA-60 ลงด้านล่าง หากคุณอยากแน่ใจ 100% ให้รอให้ราคา ทะลุระดับ high/low ที่ใกล้ที่สุด
5. วางคำสั่ง Take Profit ไว้ใกล้กับจุดสูงสุด/ต่ำสุดก่อนหน้า หรือเลื่อน Stop Loss ของคุณไปตามทิศทางของราคา

 กลยุทธ์ #2: กลับไปหาค่าเฉลี่ย

1. ใช้ SMA-50 หรือ EMA-50 ในกรอบเวลาที่คุณชอบมากที่สุด
2. ราคามักจะกลับไปสู่ราคาเฉลี่ยเสมอ ดังนั้นให้มองหาช่วงเวลาที่ราคาอยู่ห่างจาก เส้น MA มากเกินไปเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ บนแผนภูมิ
3. เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าระยะห่างระหว่างราคากับ MA นั้นใหญ่เกินไป ให้มองหารูปแบบกลับตัวของแท่งเทียน โดยเฉพาะ pin bar (แท่งเทียนที่มีตัวแท่งขนาดเล็ก และไส้ล่าง/บนยาวๆหนึ่งไส้) เช่น Hammer หรือ Shooting Star เข้าตลาดในทิศทางของสัญญาณ

ดาวน์โหลด FBS TRADER

FBS Analyst Team