วิธีประสบความสำเร็จในตลาดน้ำมัน
หากคุณไม่iรู้ว่าจะลงทุนที่ไหน ตลาดน้ำมันนับเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ น้ำมันดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก ในบทความนี้เราจะบอกคุณเหตุผลที่มันเป็นเช่นนั้น รวมถึงวิธีการเพิ่มรายได้ของคุณในตลาดน้ำมัน
CFD โลกแห่งเวทย์มนต์
เมื่อนึกถึงการลงทุนในตลาดน้ำมัน คุณจะเห็นตัวอักษรเวทมนต์สามตัวคือ CFD
CFD ย่อมาจากคำว่า contract for different คุณรู้ว่าน้ำมันมีหน่วยเป็นบาร์เรล แต่คุณควรเข้าใจว่าในตลาดน้ำมันนี้คุณจะไม่ได้รับน้ำมันจริงๆ แล้วคุณได้อะไรล่ะ? แนวคิดของตลาดนี้คือคาดการณ์ราคาของสินทรัพย์ และชนะหากคาดการณ์ได้ถูกต้อง เป็นผลให้เมื่อคุณมาที่ตลาดนี้คุณมาเพื่อได้เงินไม่ใช่สินค้า
ราคาของ CFD รูปแบบเป็นอย่างไร? ราคาจะตรงกับราคาของฟิวเจอร์สที่รู้จักกันดีในชื่อ Intercontinental และ New York Mercantile Exchanges
Brent และ WTI
คุณรู้ไหมว่าคุณจะไม่พบกราฟของตลาดน้ำมันเพียงอย่างเดียว? มีน้ำมันมาตรฐานสองอย่างที่คุณสามารถลงทุนได้คือ Brent และ WTI
Brent เป็นมาตรฐานสำหรับตลาดในยุโรปและเอเชีย มาตรฐานนี้ประกอบด้วยน้ำมันมากกว่า 15 เกรด ที่ผลิตในแหล่งน้ำมันของ Norway และ Scottland, Ekofisk, Oseberg และ Forties
WTI เป็นเครื่องหมายสำหรับซีกโลกตะวันตก ผลิตในแหล่งน้ำมันของสหรัฐฯ ซึ่งแหล่งใหญ่จะอยู่ที่รัฐเท็กซัส รัฐลุยเซียนา และรัฐนอร์ทดาโคตา
มาตรฐานทั้งสองนี้มีความแตกต่างกันสองประการ ประการแรกคือสถานที่ ประการที่สองคือสูตรเคมี นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองมีราคาที่แตกต่างกัน WTI นั้นมีราคาถูกกว่า Brent อย่างไรก็ตามหากคุณดูกราฟของน้ำมันทั้งสอง คุณแทบจะไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนในการเคลื่อนไหวของทั้งคู่
แรงผลักดันของตลาด
ถึงแม้จะมีความแตกต่างระหว่างเกณฑ์มาตรฐานของน้ำมัน แต่กลับไม่มีความแตกต่างในเรื่องของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อพวกมัน
อุปสงค์ / อุปทาน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อทุกตลาดคืออุปสงค์และอุปทาน เพียงแค่จำกฎง่ายๆคือ: เมื่ออุปทานลดลง - ราคาจะพุ่งขึ้น และเมื่ออุปทานเพิ่มขึ้น - ราคาจะดิ่งลง ในทางกลับกันเมื่ออุปสงค์ลดลง - ราคาก็ลดลง และเมื่ออุปสงค์เพิ่มขึ้น - ราคาก็เพิ่มขึ้น
ทำไมถึงอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ / อุปทาน? การลดลงของอุปสงค์เกิดจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุด
การลดลงของอุปทานเกิดจากความขัดแย้ง, การคว่ำบาตร และปัญหาเกี่ยวกับแท่นขุดเจาะน้ำมัน ส่วนการเพิ่มขึ้นของอุปทานขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ส่งออกน้ำมันในการเพิ่มกำลังการผลิต
อุปสงค์และอุปทานเป็นปัจจัยพื้นฐาน และแรงผลักดันอื่นๆ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับพวกมัน
เหตุการณ์ทางการเมือง
ความไม่แน่นอน, ความขัดแย้ง, การคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดล้วนส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันอยู่เสมอ เห็นได้ชัดว่า: ความขัดแย้งนำไปสู่การตัดอุปทานซึ่งการลดลงของอุปทานจะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น คุณแค่ต้องหมั่นติดตามข่าวสารเพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ
อารมณ์ตลาด
อารมณ์ตลาดเป็นปัจจัยที่เป็นผลจากเหตุการณ์ทางการเมือง คุณลักษณะของตลาดน้ำมันคือราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามข่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริง ตัวอย่างเช่น เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับอุปทานในอนาคต ราคาจะสูงขึ้นทันที ตลาดไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลยืนยันของการลดลงของอุปทานด้วยซ้ำ
ด้วยการที่ตลาดน้ำมันได้รับผลกระทบจากอารมณ์ตลาด ผู้ผลิตน้ำมันจึงนำมันมาใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเองในขณะที่คุณลงทุนในน้ำมัน คุณก็ควรจดจำปัจจัยนี้ไว้เสมอ การติดตามอารมณ์ของตลาดเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดของนักลงทุนน้ำมัน
วิธีคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด
ข่าว ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าราคาขึ้นอยู่กับอารมณ์ตลาด เพื่อจะเข้าใจอารมณ์ตลาดได้ คุณต้องอ่าน ข่าว และติดตามความคิดเห็นของสหรัฐฯ, OPEC และพันธมิตรที่ไม่ใช่ OPEC อย่างรัสเซีย
รายงาน เพื่อจะได้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาของอุปสงค์/อุปทาน คุณควรติดตามรายงานของ US Energy Information Administration ในรายงานนี้คุณควรพิจารณาถึงข้อมูลของน้ำมันดิบคงคลังที่ประกาศทุกสัปดาห์ (ตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจ ) และการคาดการณ์ต่างๆเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานที่คุณสามารถหาได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้น และแน่นอนคุณต้องไม่ลืม OPEC เพราะองค์กรนี้ก็มีการส่งรายงานด้วย
ตลาดน้ำมันมอบโอกาสใดให้คุณ
ความผันผวนเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุน ด้วยการที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในแต่ละวัน ตลาดน้ำมันก็ให้โอกาสที่ดีในการเพิ่มรายได้ของคุณ อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันคุณควรจำไว้ว่าความผันผวนสูงก็อาจนำไปสู่การสูญเสียอย่างมากมายได้เช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์คุณควรจำได้ถึง การบริหารความเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นตลาดก็ยังเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากของนักพนัน คุณจะไม่มีวันเบื่อการลงทุนในตลาดน้ำมัน เพราะทั้งข่าวแบะรายงานต่างก็มีมาทุกวัน และราคาจะกระโดดขึ้นๆลงๆ หากคุณชอบการเล่นเกมส์แล้วล่ะก็ การลงทุนในตลาดน้ำมันก็นับว่าใช่สำหรับคุณ
สรุปว่า
• Brent และ WTI เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก
• อุปทานและอุปสงค์เป็นปัจจัยพื้นฐานที่กำหนดทิศทางของตลาด
• พึงระลึกถึงรายงานจาก US Energy Information Administration และ OPEC
• ติดตามอารมณ์ของตลาดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลกำไรมหาศาล
• เรียนรู้วิธีการเทรดบนความผันผวนสูง