วิธีการเทรดด้วยรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม?

วิธีการเทรดด้วยรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม?

อัปเดทแล้ว • 2023-01-25

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมคืออะไร?

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมเป็นรูปแบบการสะสมราคาของราคาสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวภายในช่วงที่แคบลงเรื่อย ๆ รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมจะทำให้เห็นภาพการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ซึ่งในการต่อสู้ดังกล่าว โดยทั่วไปรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมจะส่งสัญญาณของความต่อเนื่องของแนวโน้มก่อนหน้า ดังนั้นเทรดเดอร์มักจะรอให้ราคาทะลุออกจากกรอบก่อนแล้วค่อยเปิดคำสั่งซื้อขาย

Frame 8.png

สามารถระบุรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมได้บนกราฟโดยการวาดเส้นแนวโน้มสองเส้นผ่านจุดสูงสุดและต่ำสุดของรูปแบบ หากแต่ละเส้นแนวโน้มมีจุดเริ่มต้นที่ห่างกันแต่ก็มาบรรจบกันในที่สุด รูปแบบที่คุณเห็นคือรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมประเภทต่าง ๆ, วิธีระบุรูปแบบดังกล่าวบนกราฟ, และกลยุทธ์การซื้อขายใดที่คุณสามารถใช้ได้หากคุณพบรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมบนกราฟ

กรอบสามเหลี่ยมด้านเท่า

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมประเภทแรกที่เราจะพูดถึงคือกรอบสามเหลี่ยมด้านเท่า เดี๋ยวเราไปดูกราฟด้านล่างกัน

Frame 7.png

นี่คือตัวอย่างของรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมด้านเท่าแบบทั่วไป คุณจะเห็นว่า รูปแบบนี้ดูเรียบง่ายและสมบูรณ์ โดยเส้นแนวโน้มทั้งสองเข้ามาบรรจบกันด้วยความชันที่ใกล้เคียงกัน รูปแบบนี้มักใช้เป็นตัวอย่างทั่วไปของรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม เนื่องจากมันเป็นรูปแบบที่ชัดเจนและจำได้ง่าย

กรอบสามเหลี่ยมด้านเท่าจะเกิดขึ้นเมื่อราคาเริ่มขยับขึ้นและลงในกรอบที่จำกัด ซึ่งกรอบจะเล็กลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ยอดของกรอบสามเหลี่ยมด้านเท่าจะค่อย ๆ ต่ำลง ในขณะที่ร่องจะไต่ระดับขึ้นสูงกว่าครั้งก่อน ๆ

กรอบสามเหลี่ยมด้านเท่ามักจะเกิดขึ้นในตลาดที่ไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียว ด้วยความที่ไม่มีแค่แนวโน้มใดแนวโน้มหนึ่งที่ครอบงำตลาดนี้ได้ มันจึงช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างเท่าเทียมกันและสร้างช่วงของการสะสมราคา

โดยปกติแล้ว เมื่อราคาทะลุออกจากกรอบการเคลื่อนไหวที่จำกัดนี้ มันจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางของแนวโน้มก่อนหน้าด้วยปริมาณที่มากกว่าในช่วงที่มีการก่อตัวของรูปแบบ ซึ่งแสดงว่าเทรดเดอร์ได้ออกจากช่วงเวลาแห่งความไม่แน่ใจ และแนวโน้มก็ได้กลับเข้ามาสู่เส้นทางอีกครั้ง

กรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมประเภทต่อไปที่เราจะพิจารณาคือกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น กรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นจะแตกต่างจากกรอบสามด้านเท่าตรงที่กรอบด้านล่างของมันเท่านั้นที่เฉียงขึ้น ส่วนด้านบนของกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นที่ลากผ่านจุดสูงสุดของรูปแบบจะยังคงอยู่ในเส้นแนวนอน ซึ่งส่งสัญญาณว่าแนวต้านหมียังคงอยู่ที่เดิมแม้ว่าตลาดกระทิงจะพยายามบุกทะลวงก็ตาม

Frame 5.png

โดยทั่วไป รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนมาก ซึ่งคุณสามารถระบุได้จากแนวรับที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ มันจะไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วในที่สุดก็บรรจบกับแนวต้านที่คงที่ ทะลุผ่านออกไปแล้วกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้านี้ ดังนั้น กรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นจึงถือเป็นรูปแบบขาขึ้นที่นำหน้าการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น

นอกเหนือจากการระบุทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต กรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นยังสามารถระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าหรือออกจากการซื้อขาย ดังนั้นการระบุพวกมันบนกราฟหมายถึงการค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ในการเปิดคำสั่งซื้อขายที่ได้กำไร

กรอบสามเหลี่ยมขาลง

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมขาลงนั้นจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น กรอบสามเหลี่ยมขาลงเกิดขึ้นในตลาดขาลง และอย่างที่คุณคาดเดาได้ว่ามันเป็นรูปแบบขาลง

Frame 6.png

ดังที่คุณเห็นในกราฟนี้ กรอบสามเหลี่ยมขาลงจะสะท้อนภาพคู่ของมัน และมีเส้นแนวโน้มหนึ่งเส้นที่ลาดเอียงลง และมีเส้นแนวนอนหนึ่งเส้น ในกรอบสามเหลี่ยมขาลง ฝั่งที่ลาดเอียงลงจะเป็นแนวต้าน รูปแบบนี้จะแสดงให้เห็นว่าเป็นหมีที่ยังคงรุกกระทิงได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนจะกระทิงจะไม่สามารถสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งมากพอเพื่อรับมือกับแนวต้านที่กดตัวลงใกล้เข้ามา ในท้ายที่สุด หมีมักจะทำลายแนวรับออกไปได้ ส่งสัญญาณการสิ้นสุดและการยืนยันรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม และยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาลงก่อนหน้านี้

แม้ว่ารูปแบบกรอบสามเหลี่ยมทั้งขาลงและขาขึ้นมักจะส่งสัญญาณถึงจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงและขาขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังเป็นไปได้ที่ราคาจะเด้งออกจากเส้นแนวโน้มแนวนอน ส่งผลให้แนวโน้มก่อนหน้าเกิดการกลับตัว ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วการรอจนกว่ารูปแบบจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าซื้อขายจะเป็นการดีกว่า

การซื้อขายด้วยรูปแบบกรอบสามเหลี่ยม: สิ่งสำคัญที่ควรจำ

  • รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมจะเกิดขึ้นเมื่อราคาเริ่มเคลื่อนไหวในช่วงที่ค่อย ๆ แคบลงอย่างต่อเนื่อง กรอบนี้ถูกจำกัดด้วยเส้นแนวโน้มสองเส้นที่ลากผ่านจุดสูงสุดและต่ำสุดของรูปแบบ ซึ่งแสดงถึงแนวรับและแนวต้าน
  • กรอบสามเหลี่ยมจะมีสามรูปแบบหลัก ๆ: ด้านเท่า ขาขึ้น และขาลง
  • โดยทั่วไปแล้วรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมนั้นถือเป็นรูปแบบความต่อเนื่อง แต่มันก็สามารถปรากฏก่อนเกิดการกลับตัวของแนวโน้มได้เช่นกัน
  • กลยุทธ์ที่ใช้กันมากที่สุดในการซื้อขายรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมคือการรอให้ราคาทำลายแนวออกไป จากนั้นค่อยเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางที่ตลาดเคลื่อนไหว

รูปแบบกรอบสามเหลี่ยม: กลยุทธ์การซื้อขาย

หากคุณเห็นรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมบนกราฟ คำแนะนำทั่วไปคือรอจนกว่าราคาจะทะลุกรอบและสร้างแนวโน้มใหม่ เมื่อมันเกิดขึ้น คุณสามารถเข้าสู่การซื้อขาย ณ จุดที่ราคาทะลุออกไปและเคลื่อนที่ต่อโดยเปิดคำสั่งซื้อขายในทิศทางเดียวกับที่ราคากำลังเคลื่อนที่ไป สำหรับจุดออก เมื่อรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมก่อตัวขึ้น ราคามักจะเคลื่อนที่เป็นระยะทางเท่า ๆ กับความสูงของรูปแบบโดยประมาณ ดังนั้นคุณจึงสามารถวางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปและเตรียมพร้อมที่จะเก็บกำไร

อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อทำการซื้อขายรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมต่าง ๆ ซึ่งเราจะพูดถึงต่อไป

กลยุทธ์การซื้อขายกรอบสามเหลี่ยมด้านเท่า

ดังที่เราได้เรียนรู้ไปแล้วว่ากรอบสามเหลี่ยมด้านเท่าสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในตลาดกระทิงและตลาดหมี ทั้งตลาดกระทิงและตลาดหมีจะมีตำแหน่งที่เท่ากัน ดังนั้นราคาจะจบลงที่การเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

สิ่งที่คุณสามารถทำได้ในกรณีนี้คือการวางคำสั่งเข้าเหนือแนวต้านและใต้แนวรับ ด้วยวิธีนี้ คุณจะเข้าเปิดคำสั่งซื้อขายแบบอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางที่ตลาดจะเคลื่อนไหวต่อไป หรืออีกทางหนึ่ง คุณสามารถรอให้ราคาทะลุออกไปเพื่อดูว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางไหนแล้วค่อยตามน้ำไป

ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

EURUSDDaily.png

ในกราฟรายวันของ EURUSD คุณจะสังเกตเห็นกรอบสามเหลี่ยมด้านเท่าที่จุดตัดของเส้นแนวโน้มขาขึ้นและเส้นขาลงภายในแนวโน้มขาลงขนาดใหญ่ หลังจากที่ระบุรูปแบบได้แล้ว เราก็รอให้ราคาทะลุออกไปไม่ว่าจะฝั่งขาลงหรือฝั่งขาขึ้น ในตัวอย่างของเรา แท่งเทียนได้ทะลุแนวต้าน และส่งผลให้เราได้เปิดตำแหน่งที่ 1.3355 เราวางจุดตัดขาดทุนไว้ประมาณ 10 จุดใต้จุดต่ำสุดของกรอบสามเหลี่ยมที่ 1.2324 ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวของราคามักจะเท่ากับความสูงของรูปแบบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป เราถึงได้วัดระยะห่างระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของรูปแบบ:

1.3294 - 1.2334 = 0.096

จากที่ได้วัดแล้ว ตอนนี้เราสามารถกำหนดตำแหน่งที่ดีที่สุดในการเก็บกำไร (1.3355 + 0.096 = 1.4315) และวางคำสั่งออกจากการซื้อขาย

กลยุทธ์การซื้อขายกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นและขาลง

ทั้งกรอบสามเหลี่ยมทั้งขาขึ้นและขาลงจะเกิดขึ้นภายในแนวโน้มขาขึ้นและขาลงตามลำดับ และมักจะถูกพิจารณาว่าเป็นรูปแบบความต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าหลังจากที่ราคาทะลุออกไป ตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับตอนก่อนที่รูปแบบจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป ราคาอาจเด้งออกจากเส้นแนวโน้มเส้นใดเส้นหนึ่งและกลับแนวโน้มไปเลย เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดในขณะที่ซื้อขายรูปแบบเหล่านี้คือการรอให้ราคาทำลายแนวออกไปก่อนแล้วค่อยเข้าร่วมในทิศทางที่ราคาจะเคลื่อนที่ต่อ

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงว่าคุณจะสามารถซื้อขายรูปแบบกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นและขาลงได้อย่างไร

NZDUSDH422.png

บนกราฟ H4 ของ NZDUSD คุณจะเห็นรูปแบบขาขึ้นที่เกิดขึ้นระหว่างแนวต้านที่เป็นเส้นแนวนอนที่ 0.7314 และแนวรับที่ลาดเอียงลง เราได้ตัดสินใจเปิดตำแหน่งหลังจากทะลุแนวต้านที่ 0.7333 จากนั้น เราวางจุดตัดขาดทุนที่ 0.7225 (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของสามเหลี่ยมประมาณ 10 จุด) และเก็บกำไรของเราที่ 0.7413 หลังจากที่สามารถระบุความสูงของรูปแบบสามเหลี่ยมก่อนหน้าได้ (0.7314 - 0.7234 = 0.08)

สุดท้าย มาดูวิธีการซื้อขายโดยใช้รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมขาลง

NZDUSDH411.png

บนกราฟ H4 การสะสมราคาที่ด้านบนของแนวโน้มขาขึ้นจะแสดงให้เห็นว่ากระทิงไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นได้อีกแล้ว ส่งผลให้กรอบสามเหลี่ยมขาลงได้ก่อตัวขึ้นโดยมีแนวรับอยู่ที่ 0.7470 เราได้ตัดสินใจเปิดคำสั่งซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับ ดังนั้นเราจึงเปิดคำสั่ง short ที่ 0.7455 เพื่อลดความเสี่ยง เราจึงวางจุดตัดขาดทุนไว้ 10 จุดเหนือจุดสูงสุดสุดท้ายของกรอบสามเหลี่ยมที่ 0.7534 และวางจุดเก็บกำไรไว้ที่ 0.7367

สรุป

รูปแบบสามเหลี่ยมเป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและจำได้ง่ายซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถทำนายความต่อเนื่องของทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาด อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรจำไว้ว่ามีโอกาสเสมอที่รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมอาจจบลงด้วยการกลับตัวของแนวโน้มก่อนหน้า ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะรอให้ราคาทะลุกรอบออกไปก่อนแล้วค่อยทำการตัดสินใจ

คล้ายกัน

เลือกอะไรดี: การซื้อขายเต็มเวลาหรือนอกเวลาในปี 2023?
เลือกอะไรดี: การซื้อขายเต็มเวลาหรือนอกเวลาในปี 2023?

หากคุณคิดจะทำการซื้อขายเต็มเวลา คุณต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับหลายความท้าทาย เทรดเดอร์จำนวนมากไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันทางจิตใจและเตรียมพร้อมสำหรับความล้มเหลว

คำถามที่พบบ่อย

  • จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?

    คลิกปุ่ม ‘เปิดบัญชี’ บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Personal area ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขายได้ คุณจะต้องผ่านการตรวจสอบโปรไฟล์, ยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ, และผ่านการยืนยัน ID ของคุณ ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเงินทุนและตัวตนของคุณ เมื่อคุณตรวจสอบทั้งหมดเสร็จแล้วให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการแล้วเริ่มทำการซื้อขาย 

  • จะเริ่มเทรดอย่างไร?

    หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ  

  • จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?

    ขั้นตอนนั้นตรงไปตรงมามาก ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Personal area แล้วถอนเงิน คุณจะรับเงินที่ถอนผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีด้วยวิธีการอื่น คุณต้องถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในยอดเดียวกันกับจำนวนเงินที่ฝาก

ฝากเงินกับระบบการชำระเงินในประเทศของคุณ

ประกาศการเก็บรวบรวมข้อมูล

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

โทรกลับ

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

เราได้รับคำร้องของคุณแล้ว

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

คำขอโทรกลับครั้งต่อไปสำหรับหมายเลขโทรศัพท์นี้
จะพร้อมใช้งานใน

หากคุณมีปัญหาเร่งด่วนโปรดติดต่อเราผ่านทาง
สนทนาออนไลน์

เกิดข้อผิดพลาดภายใน กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง

อย่ามัวเสียเวลา - ติดตามดูว่า NFP ส่งผลกระทบอย่างไร ต่อ USD แล้วทำกำไรเลยสิ!

คุณกำลังใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่ากว่านี้

อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือลองใช้เพื่อการเทรดที่สะดวกสบายและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

Safari Chrome Firefox Opera