อัปเดทแล้ว • 2022-09-06
ก๊าซธรรมชาติเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจยุโรป หากประเทศส่วนใหญ่ในโลกกำลังประสบกับปัญหาราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นละก็ ยุโรปก็ถูกโจมตีอย่างดุเดือดที่สุดในหมู่พวกเราแล้ว ราคาก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้าพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ "น่าขัน" ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อผู้บริโภคและธุรกิจทั่วสหภาพยุโรป ขณะที่วิกฤตการณ์พลังงานเลวร้ายลง อัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.1% ในเขตยุโรป ทำให้ผู้นำยุโรปต้องเตรียมแผนช่วยเหลือและมาตรการฉุกเฉินอย่างกะทันหันเพื่อบรรเทาความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงของผู้บริโภคในฤดูหนาวที่จะมาถึง
สหภาพยุโรปวางแผนที่จะเข้าแทรกแซงในตลาดโดยตรงในระยะสั้น เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นสำหรับครัวเรือนและภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดอย่างการผลักดันให้เศรษฐกิจของเขตยุโรปต้องเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง
คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอฉุกเฉินที่ไม่ระบุรายละเอียดเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในฤดูหนาวนี้ ก่อนการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหภาพยุโรปในวันที่ 9 กันยายน ในขณะเดียวกัน ความพยายามในการเติมพื้นที่จัดเก็บก๊าซกำลังดำเนินไปเร็วกว่าที่วางแผนไว้ ซึ่งช่วยบรรเทาและเพิ่มโอกาสของยุโรปในการผ่านฤดูหนาวด้วยปริมาณก๊าซที่เพียงพอ
สหภาพยุโรปอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องในการเติมโรงเก็บก๊าซให้ได้ตามเป้าหมาย ประเทศต่างๆ จะบรรลุเป้าหมายที่พื้นที่เก็บก๊าซของพวกเขาเต็ม 80% ภายในเดือนพฤศจิกายน โดยที่สถานที่จัดเก็บในยุโรปจะเติมโดยเฉลี่ย 79.9%
แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการรักษาพลังงานในฤดูหนาวนี้คือ การลดการบริโภคลงเพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อเพลิงที่เก็บไว้จะคงอยู่ได้ตลอดเดือนที่หนาวเหน็บ การลดอุปสงค์จะมีความสำคัญมากกว่าการจัดเก็บ หากหลายประเทศทำไม่สำเร็จ โรงผลิตก๊าซของยุโรปจะว่างเปล่าภายในเดือนมีนาคมและก่อนที่ฤดูหนาวจะสิ้นสุดลง
เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตในฤดูหนาว ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องลดการใช้ก๊าซทุกเดือนลง 15% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยห้าปี นั่นจะทำให้พื้นที่เก็บก๊าซหลังฤดูหนาวเต็ม 45% หากรัสเซียยังคงส่งก๊าซและเต็ม 26% หากรัสเซียตัดการส่งก๊าซตั้งแต่เดือนตุลาคม
รัสเซียเป็นผู้จัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปมากกว่า 40% แต่หลังจากสงครามในยูเครน การส่งก๊าซของรัสเซียได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
มอสโกว์ลดอุปทานผ่าน Nord Stream 1 ซึ่งเป็นท่อส่งหลักของยุโรปเป็น 40% ในเดือนมิถุนายนและ 20% ในเดือนกรกฎาคม เหตุผลคือปัญหาในการบำรุงรักษาและการคว่ำบาตร ซึ่งรัสเซียระบุว่าขัดขวางการส่งคืนและติดตั้งอุปกรณ์
ปริมาณก๊าซที่รัสเซียส่งผ่าน Nord Stream 1 ตอนนี้มีเพียง 20% ดังนั้นการจัดเก็บก๊าซเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงพอที่จะปรับสมดุลของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปิดท่อรัสเซียหลายครั้งด้วยเหตุผลหลายประการ มันถูกปิดเป็นเวลาสิบวันในเดือนกรกฎาคม มันถูกปิดอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นเวลาสามวันเนื่องจากการบำรุงรักษา
ด้วยวิกฤตด้านพลังงานที่โหมกระหน่ำในยุโรป ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการไหลของก๊าซธรรมชาติได้ผลักดันราคาไปสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
1. ในระดับน้ำมัน ราคาของก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ระดับ 500 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นสิบเท่าของราคาน้ำมันเฉลี่ยในปัจจุบัน (100 ดอลลาร์)
2. เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ราคาก๊าซในยุโรปได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10 เท่าของระดับในสหรัฐอเมริกา โดยที่การซื้อขายก๊าซของสหรัฐฯ ใกล้ถึง 10 ดอลลาร์/MMBtu
3. ในขณะที่ราคาก๊าซยุโรปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 340 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง หรือ 100 ดอลลาร์ต่อล้านหน่วยความร้อนของอังกฤษ
ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เกิดความกลัวต่อฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงและบ้านที่หนาวเหน็บซึ่งไม่มีก๊าซให้ความร้อน นอกเหนือจากภัยคุกคามที่ชัดเจนต่ออุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมาก
ด้วยความเป็นไปได้ของการแทรกแซงโดยตรงในตลาดพลังงานจากสหภาพยุโรปเพื่อบรรเทาวิกฤตด้านพลังงาน ราคาก๊าซปรับตัวลดลง โดยเห็นการบรรเทาทุกข์ที่หาได้ยากจากการพุ่งขึ้นล่าสุด
ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปลดลงอย่างรวดเร็วเป็น 220 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ลดลงมากกว่า 30% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ๆ 340 ยูโร
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมันคาดราคาน้ำมันจะลดลงอีกในเร็วๆ นี้ เยอรมนีซึ่งเป็นผู้บริโภคก๊าซรายใหญ่ที่สุดในยุโรปกล่าวว่าโรงเก็บก๊าซจะเต็ม 85% ภายในเดือนหน้า
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด
หลังจากได้รับแรงกดดันจากทำเนียบขาวมาเป็นเวลาหลายเดือน ซาอุดีอาระเบียก็ยอมผ่อนปรนและตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตกับสมาชิก OPEC+ รายอื่นๆ
ใช่แล้ว ตอนนี้ราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงขึ้น และด้วยเหตุนี้ อัตราเงินเฟ้อจึงร้อนระอุขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมขาขึ้นของน้ำมันกำลังอยู่ในอันตราย
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่าให้รอเข้าเทรด SELL XAUUSD ที่ระดับ 2,180 ดอลลาร์ โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 2,130 ดอลลาร์ และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY NASDAQ (US500) ที่ระดับ 17,200 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 19,300 จุด และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY S&P 500 (US500) ที่ระดับ 4,850 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 5,200 จุด
FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา
เราได้รับคำร้องของคุณแล้ว
ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้
คำขอโทรกลับครั้งต่อไปสำหรับหมายเลขโทรศัพท์นี้
จะพร้อมใช้งานใน
หากคุณมีปัญหาเร่งด่วนโปรดติดต่อเราผ่านทาง
สนทนาออนไลน์
เกิดข้อผิดพลาดภายใน กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง
อย่ามัวเสียเวลา - ติดตามดูว่า NFP ส่งผลกระทบอย่างไร ต่อ USD แล้วทำกำไรเลยสิ!
|
