ก๊าซธรรมชาติเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจยุโรป
ราคาน้ำมันที่เข้าใกล้ $130 นั้นเป็นฝันร้ายของเงินเฟ้อ
อัปเดทแล้ว • 2022-03-07
ตลาดน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรงจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ลดลง กลุ่ม OPEC+ ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะบรรลุเป้าหมายการผลิตตามที่ตนเองได้กำหนดไว้ และยืนกรานที่จะจำกัดการเพิ่มกำลังการผลิตไว้ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ เหล่าผู้ผลิตในสหรัฐฯก็ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ
เงินเฟ้อเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของตลาด และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะกลัวมัน เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ที่ 7.5% ส่วนเงินเฟ้อในยูโรโซนแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.8% ส่วนในสหราชอาณาจักรนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อได้พุ่งไปสูงถึง 5.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี
สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแต่ทำให้สิ่งต่างๆแย่ลง หากการจัดหาน้ำมันและก๊าซของรัสเซียต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากการคว่ำบาตรหรือโดยคำสั่งของ Kremlin เพื่อตอบสนองต่อการคว่ำบาตร สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจทำให้ราคาเกิดความบ้าคลั่ง แม้ว่าก่อนที่เราจะเห็นผลกระทบที่แท้จริงต่ออุปสงค์ที่เกิดจากการที่น้ำมันของรัสเซียหายไปจากตลาด
ราคาน้ำมันดิบพุ่งไปแตะ $130 ต่อบาร์เรล
แม้ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่ได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกพลังงานของรัสเซีย แต่หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย การขนส่งของรัสเซียก็กลายเป็นพิษต่อผู้ค้า บริษัทประกันภัย และเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันส่วนใหญ่ โรงกลั่นและผู้ค้าบางรายกังวลว่าธุรกรรมทางการเงินจะทำงานอย่างไรหลังจากที่ธนาคารรัสเซียถูกผลักออกจากระบบ SWIFT ส่วนคนอื่นๆก็พากันวิ่งหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายชื่อเสียงของพวกเขา
ราคาน้ำมันอาจขึ้นถึงระดับไหน?
JPMorgan คิดว่า 66% ของน้ำมันรัสเซียจะพยายามหาผู้ซื้อและคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะแตะระดับ $185 ภายในสิ้นปีนี้หากน้ำมันของรัสเซียยังไม่มีผู้ซื้อ หากภาคพลังงานของรัสเซียตกอยู่ภายใต้การคว่ำบาตร หรือหากเยอรมนีเปลี่ยนใจหยุดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 และหากสหรัฐฯล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้อาจจำกัดอุปทานน้ำมันทั่วโลก ทั้งหมดนี้ร่วมกันก็จะผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปได้อีก
ราคาน้ำมันที่สูงกว่า $125 นั้นมีความหมายอะไรต่อเงินเฟ้อ?
หากราคาพลังงานพุ่งขึ้น เงินเฟ้อก็จะเป็นสิ่งแรกที่ได้รับผลกระทบ สิ่งนี้จะส่งผลร้ายแรงต่อรัสเซีย แต่มันก็จะเพิ่มแรงกดดันต่อค่าครองชีพในตะวันตกด้วย
แม้ก่อนที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ $110 ต่อบาร์เรล นักวิเคราะห์ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโต และเพิ่มประมาณการเงินเฟ้อ หากภาคพลังงานของรัสเซียรวมอยู่ในรายการเป้าหมาย แสดงว่าน้ำมันและก๊าซจะมีราคาแพงขึ้นไปอีกนาน ในสถานการณ์ที่น้ำมันแตะถึงระดับ $150 และยังคงอยู่เหนือระดับ $100 จนถึงต้นปี 2023 แรงกดดันต่อผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจและภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และความต้องการที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อผลกำไร สิ่งนี่จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนการชะลอตัวของเศรษฐกิจไปสู่ภาวะถดถอยด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯจะไปถึงไหน?
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะตอบสนองอย่างไรต่อเหตุการณ์น้ำมันสุดช็อคที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงกว่า $125 ต่อบาร์เรล
เศรษฐกิจสหรัฐฯสามารถทนต่อราคาน้ำมันได้เป็นเวลา 6 เดือนโดยเฉลี่ยที่ $100 แม้ว่ามันอาจทำให้ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม เกือบเป็นที่แน่นอนว่าหากน้ำมันยังคงอยู่ที่ระดับ $125 มันจะทำให้การเติบโตหยุดชะงักและอัตราการว่างงานสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยได้ อีกคำถามหนึ่งคือธนาคารกลางจะตอบสนองอย่างไรต่อราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวว่าเหตุการณ์ในยูเครนจะไม่หยุดยั้งแผนการของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือขอบเขตและความเร็วของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในที่สุด ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการรุกรานยูเครนจะมาในรูปแบบของการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย รัสเซียจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบ double-digit
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้พุ่งขึ้นสู่ 99.00 สำหรับตอนนี้ เงินดอลลาร์ก็สนุกกับความต้องการเป็นที่หลบภัย แนวรับอยู่ที่ 97.50
คล้ายกัน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด
ในช่วงเวลา 21:30 น. จะมีการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาโดยจะมี...
ข่าวล่าสุด
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่าให้รอเข้าเทรด SELL XAUUSD ที่ระดับ 2,180 ดอลลาร์ โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 2,130 ดอลลาร์ และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY NASDAQ (US500) ที่ระดับ 17,200 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 19,300 จุด และตั้งจุด SL
ก่อนหน้านี้ เรามีการประเมินว่า ให้รอเข้าเทรด BUY S&P 500 (US500) ที่ระดับ 4,850 จุด โดยสามารถตั้งจุด TP ได้ที่บริเวณ 5,200 จุด